
26 ธันวาคม 2563 เวลา 08.45 น. ร้อยตำรวจเอก ธีระศักดิ์ แก้วคำ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งอุบัติเหตุที่ ถนนสายศรีสะเกษ กันทรลักษ์ ช่วงกิโลเมตรที่ 8 9 บ้านหนองละอาง - บ้านหนองแคน ตำบลซำ จึงรายงานให้ พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผู้กำกับฯ ได้รับทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับประสานกู้ภัย มูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน เมื่อเดินทางไปถึง พบรถยนต์ฟอร์ดสีฟ้า จอดอยู่ฝั่งซ้ายแต่หันหน้าเข้าเมือง มีร่องรอยการชนอย่างแรงจนด้านหน้ารถยุบเข้าไป และด้านหน้าพบรถจักรยานยนต์ ล้มคว้ำอยู่ข้างทางตรงริมทาง ห่างไปเล็กน้อย ในคลองข้างทาง พบรถยนต์เก๋งสีขาว ตกลงไปข้างทาง มีร่องรอยการชนกันทั้ง 3 คัน
สอบถาม นายประจวบ ประจักษ์จิต อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 8 ตำบลโพนข่า อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เล่าว่า ตนเป็นคนขับรถยนต์ปิกอัพออกมาจากฝั่งตัวเมือง จากบ้านกุดโง้ง โดยลากเทอเลอร์มาด้วย ว่าจะไปบรรทุกฟางท่อน พอมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถยนต์เก๋งขาว วิ่งสวดเลนมา และไปชนเข้ากับเทอเลอร์ที่ตนพ่วงมา ชนอย่างแรงจนทำให้เทอเลอร์หลุดออกจากสลักพ่วงตน และเทอเลอร์ดผล่ออกไปชนเข้าไปรถยนต์กระบะฟอร์ดสีฟ้าที่ขับตามรถยนต์เก๋งสีขาวมา ก่อนที่จะมีรถจักรยานยนต์มาชนซ้ำอีก ทั้งหมดตกลงไปข้างทางอีกฝั่งหนึ่ง
ซึ่งตนได้ขับรถยนต์ไปเก็บที่บ้านขณะที่ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่าเกิดอุบัติเหตุ ก่อนออกมาตรวจดูที่เกิดเหตุ ซึ่งมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัย เร่งนำส่ง รพ.ศรีสะเกษ เพื่อรักษาตัวแล้ว ทราบว่าอาการปลอดภัย และขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งประสานรถยกมายกรถที่ประสบอุบัติเหตุออกจากเส้นทาง ที่เป็นถนน 2 เลนสวนไปกลับ จึงส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวเหยียด และทันทีก็ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุซ้ำซ้อน อุบัติเหตุหมู่ รถยนต์ชนกันอีกจุด ห่างจากจุดแรกไปราว 300 เมตร จึงเร่งไปตรวจสอบต่อไป
เมื่อเดินทางมาถึง บริเวณด้านหน้าโรงเรียนบ้านหนองแคน ตำบลซำ พบรถยนต์ปิกอัพ รถยนต์เก๋ง ชนท้ายต่อๆ กัน จำนวน 4 คัดรวด ซึ่ง พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า ได้ร่วมเดินทางมาตรวจสอบ พบว่า ขณะที่เกิดอุบัติเหตุยังจุดแรก ได้เกิดการจราจรติดขัดกันยาวเหยียด จนทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน แต่ช่วงที่เกิดเหตุซ้ำเป็นการชนท้ายกัน เป็นช่วงท้ายๆ ที่การจราจรยังไม่ติด ทำให้รถยนต์ทุกคันที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็วพอสมควร เบรคไม่ทัน แม้จะพบรอยรถว่ารถยนต์ทุกคันพยายามเบรคแล้ว แต่คันที่ชนท้ายคันแรก เกิดจากคันแรกเบรคในระยะกระชั้นชิด ทำให้คันต่อๆ มาเบรคไม่ทัน จึงเกิดชนท้ายต่อๆ กัน
โดยน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เป็นคนขับรถยนต์เก๋ง ที่ถูกชนอัดก๊อปปี้ด้านหลัง เล่าว่า ตนกำลังขับมาอยู่ดีดี รถยนต์คันหน้าก็เกิดอุบัติเหตุชนท้ายคันแรก ตนเป็นคันที่ 3 แต่เบรคไม่ทัน จึงไปชนท้ายรถยนต์คันข้างหน้าตน และคันหลังจึงมาชนท้ายรถยนต์เก๋งตนอัดก๊อปปี้เข้าไปเสียหายมากที่สุดเลย เจ้าหน้าที่ได้เก็บรายละเอียด เชิญทุกคันไป สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผู้กำกับ สภ.เมืองศรีสะเกษ ที่มาร่วมตรวจที่เกิดเหตุได้ฝากเตือน ว่า ในช่วงวันหยุดเสาร์- อาทิตย์ และจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันปีใหม่ ก็จะฝากทุกคน ได้ขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่รีบจนเกินไป หากง่วงก็จอดแวะข้างทางยังจุดพักรถ หรือปั้มที่มีตลอดระยะทาง รวมทั้งหากพบเหตุการณ์เกิดอุบัติเหตุ รถติดยาว ก็ควรที่จะผ่อนคันเร่ง ตนเข้าใจว่าทุกคนรีบอยากจะเดินทางกลับบ้าน เพราะใจไปถึงบ้านแล้ว แต่เท้ายังเหยียบคันเร่งอยู่ ก็ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ ค่อยๆ ขับขี่ตามกฎหมายการจราจร ด้วย