19 ธันวาคม 2563 "ลูกยอ" เป็นสมุนไพรโบราณที่มีประโยชน์มากมาย เพจเฟซบุ๊ก "สถาบันการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร" ได้โพสต์ให้ความรู้ถึงคุณประโยชน์ พร้อมชี้ให้เห็นโทษ หากนำไปใช้ไม่ถูกต้อง ระบุว่า...
ยอ : บำรุงเลือด ลดการอักเสบ รักษากรดไหลย้อน ต้านการอักเสบ บำรุงข้อ ช่วยประจำเดือนมาปกติ ลดอาการวัยทอง #สมุนไพรน่ารู้
ลูกยอ ผลไม้เป็นยา พบได้ตามพื้นเมืองหลายประเทศ ในมาเลเซียเรียก "เมอกาดู" (Mergadu) บางประเทศเรียก "โนนิ" (Noni)
ตำรายาไทยมีการใช้ ผลยอ ใน "พิกัดตรีผลสมุฎฐาน" คือการจำกัดจำนวนตัวยาที่มีผลเป็นที่ตั้ง 3 อย่าง มีผลมะตูม ผลยอ ผลผักชีลา สรรพคุณแก้สมุฎฐานแห่งตรีโทษ ขับลมต่างๆ แก้โรคไตพิการ
ประโยชน์ของ "ยอ" นั้นมีทั้งในด้านการนำไป บริโภคเป็นอาหารและการนำมาใช้เป็นยาสมุนไพร
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
1. แก้คลื่นไส้ อาเจียน : การศึกษาการใช้น้ำยอในการระงับอาเจียน โดยเปรียบเทียบกับยา metoclopramide ซึ่งเป็นยาแก้อาเจียน และน้ำชา ในผู้ป่วยมาลาเรีย 92 ราย ที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน พบว่ายอลดอาการอาเจียนได้มากกว่าน้ำชา
2. ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย (Antibacterial activity) เช่น Pseudomonas aeruginosa Proteus morgaii S Staphylococcus aureus Bacillus subtilis Escherichia coilSalmonella และ Shigella
3. ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส (Antitviral activity) โดยสารจากรากของต้นยอ มีฤทธิ์ในการยังยั้งการเกิด cytopathic effect ของเชื้อ HIV ต่อการ infect MT4 cell โดยไม่มีการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์
4. ฤทธิ์ต้านเชื้อวัณโรค (Antitubercular effects) มีการรายงานพบว่าลูกยอสามารถกำจัดการติดเชื้อวัณโรคได้ถึง 97% เปรียบเทียบกับยา antibiotic เช่น Rifampcin
5. ฤทธิ์ระงับความปวด (Analgesic activity) มีรายงานว่าสารสกัดจากรากยอมีฤทธิ์ระงับปวดในสัตว์ทดลอง และผลจากการวิจัย โดย ผศ.ดร.ทัศนีย์ ปัญจานนท์ พบว่าสารสกัดจากผลยอไทยมีฤทธิ์ระงับปวดในสัตว์ทดลอง
6. ยอช่วยลดการอักเสบของหลอดอาหาร จากกรดไหลย้อน ได้ผลดีพอๆ กับยามาตรฐาน คือ รานิติดีน (ranitidine) และ แลนโซพราโซล (lansoprazole) เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านการหลั่งของกรด ต้านการเกิดแผล และทำให้การบีบตัวของระบบทางเดินอาหารดีขึ้น
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
1. สารโพรซีโรนินที่พบในน้ำลูกยอ ต้องการน้ำย่อยเปปซิน (Pepsin) และสภาพความเป็นกรดในกระเพาะ เพื่อเปลี่ยนเป็นซีโรนิน ดังนั้น หากรับประทานน้ำลูกยอขณะที่ท้องอิ่มแล้วจะทำให้มีผลทาเภสัชของสารซีโรนินน้อยลง
2. คุณค่า และสรรพคุณน้ำลูกยอจะลดลงเมื่อรับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์
3. การบดหรือการสกัดน้ำลูกยอไม่ควรทำให้เมล็ดยอแตก เพราะสารในเมล็ดยอมีฤทธิ์เป็นยาระบายอาจทำให้ถ่ายบ่อยได้
4. ผู้ป่วยโรคไตไม่ควรดื่มน้ำลูกยอ เพราะมีเกลือโปแตสเซียมสูง อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้
5. สตรีมีครรภ์ไม่ควรบริโภคลูกยอ เพราะผลยอมีฤทธิ์ขับโลหิต อาจทำให้แท้งบุตรได้