
11 ธันวาคม 2563 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันฟุตบอล ชิงถ้วยพระราชทาน "ภูพานราชนิเวศน์" ครั้งที่ 39 ประจำปี 2563 และมอบถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว แก่ทีมที่ชนะเลิศ โอกาสนี้ นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นิสิตนักศึกษา ตลอดจนนักฟุตบอลคู่ชิงชนะเลิศ จากทั้งสองจังหวัด ร่วมแสดงความจงรักภักดี และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี อย่างพร้อมเพรียงกัน
โดยการแข่งขันฟุตบอลคู่ชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างทีมจังหวัดขอนแก่น อดีตแชมป์ 3 สมัย อยู่ในชุดเสื้อสีเหลือง กางเกงสีดำ พบกับทีมเจ้าภาพ จังหวัดสกลนคร แชมป์ 6 สมัย ชุดสีน้ำเงิน เป้าหมายทั้งสองทีมมีความมุ่งหมายเก็บชัยชนะ เพื่อชิงถ้วยพระราชทานอันเป็นเกียรติประวัติสูงสุด โดยทีมจังหวัดขอนแก่น สิ้นเสียงนกหวีด ได้เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อน ภายใต้เสียงเชียร์ของแฟนบอลจากทั้งสองจังหวัด ที่ขนกันมาจนเต็มอัฒจันทร์ ในช่วงต้นเกมทีมจังหวัดขอนแก่น ทำได้ดีกว่าสามารถเข้ามาสร้างความหนักใจให้กับกองหลังของสกลนคร ในกรอบเขตโทษหลายจังหวะ จนนาทีที่ 21 ชรินทร์ บุตรชาต ผู้เล่นหมายเลข 9 ทีมขอนแก่น ทะลุเข้าทำประตูไปก่อน 1 ประตู ต่อ 0
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรได้ ครึ่งเวลาหลัง ทีมเจ้าภาพสกลนคร เปิดเกมรุกแก้เกมหวังทำประตูตีเสมอ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของทั้ง 2 ทีม แต่ภาพรวม ทีม จ.ขอนแก่น ยังทำเกมดีกว่า ได้ประตูขึ้นนำ 2 -0 ในนาทีที่ 70 โดยหมายเลข 21 กฤษณะ ฐานวงศ์ และนาทีที่ 86 โดยหมายเลข 19 ธาตรี สีหา หลังสิ้นเสียงนกหวีด ทีมจังหวัดขอนแก่น สามารถ เอาชนะ ทีมจังหวัดสกลนคร ไปด้วยสกอร์ 3-0 ประตู ทำสถิติคว้าถ้วยรางวัลพระราชทานฯ ไปครอง เป็นสมัยที่ 4 พร้อมเงินรางวัล 250,000 บาท สำหรับทีมอันดับที่ 3 ได้แก่ทีมจาก จังหวัดมหาสารคาม และทีมอันดับที่ 4 ได้แก่ทีมจังหวัดบุรีรัมย์
สำหรับความเป็นมาของการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "ภูพานราชนิเวศน์" จังหวัดสกลนคร เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2525 โดยได้ขอพระราชทานถ้วยรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชน ที่มีภูมิลำเนาในภาคตะวันออกเฉียงเหวามสนใจในการเล่นกีฬาฟุตบอล และเปิดโอกาสให้พสกนิกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้มีโอกาสเข้าฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างใกล้ชิด ในวโรกาสที่เสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เดิมหน่วยงาน กรป.กลาง กองบัญชาการทหารสูงสุด เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบจัดการแข่งขันมาโดยตลอด
แต่ในปีต่อๆมา หน่วยงาน กรป.กลาง ไม่มีงบประมาณในการจัดการแข่งขัน จึงได้เชิญจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาประชุมปรึกษาหารือ และมีมติเห็นพ้องต้องกันว่าหากจังหวัดใดชนะเลิศการแข่งขันในแต่ละปี จะต้องรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีถัดไป และให้ถือครองถ้วยพระราชทานเป็นเวลาหนึ่งปี ถือเป็นประเพณีที่สืบต่อกัน จนถึงปี พ.ศ. 2547 จังหวัดสกลนคร ได้รับเกียรติจากจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันประจำทุกปี เนื่องจากถ้วยพระราทานอันทรงเกียรตินี้ เริ่มต้นจัดการแข่งขันที่จังหวัดสกลนคร นับเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ในส่วนภูมิภาค ที่จัดสืบต่อมาเป็นประจำทุกปี ถือเป็นถ้วยพระราชทานฯ ที่เก่าแก่ หรือถูกเรียกขานเป็น ถ้วยพระราชทนคิงส์คัพอีสาน