svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

'โค้ก' ติดอันดับผู้สร้างขยะพลาสติกอันดับ 1 ของโลก

11 ธันวาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

'โค้ก' หนึ่งในบริษัทเครื่องดื่มอัดลม ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นบริษัทฯ ผู้สร้างขยะพลาสติกอันดับ 1 ของโลก ติดอันดับสามปีซ้อนทีเดียว .

จากรายงานขององค์กร 'Break Free from Plastic' ที่ได้ทำการตรวจสอบแบรนด์สินค้าจากขยะพลาสติกตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 30 กันยายน 2020 โดยใช้อาสาสมัคร 14,734  คน ใน 55 ประเทศทั่วโลก พบว่า ปี 2020 สามารถเก็บขยะพลาสติกได้ 346,494 ชิ้น ซึ่งกว่า 63% มีตราสินค้าผู้บริโภคอย่างชัดเจน

 

\'โค้ก\' ติดอันดับผู้สร้างขยะพลาสติกอันดับ 1 ของโลก




โดยรายงานข่าวระบุไว้ว่า แบรนด์ที่พบขยะพลาสติกมากที่สุดคือ 'โค้ก' หรือ โคคา โคลา ซึ่งนับจำนวนได้มากกว่า 13,834 ชิ้น จาก 51 ประเทศ


รองลงมาคือ' เป๊ปซี่' จำนวน 5,155 ชิ้น จาก 43 ประเทศ


และ 'เนสท์เล่' จำนวน 8,633 ชิ้น จาก 37 ประเทศ


 

\'โค้ก\' ติดอันดับผู้สร้างขยะพลาสติกอันดับ 1 ของโลก




ในขณะที่ "โค้ก" ได้แจ้งว่า ในขณะนี้กำลังดำเนินงานอย่างหนักเพื่อแก้ปัญหาขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นเหล่านี้ โดยทาง "โค้ก" ได้ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี2030 จะยกเลิกบรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวและจะนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานมาใช้ผลิตขวดรีไซเคิลแทน  นอกจากนี้ "โค้ก" ยังบอกอีกว่าขวดที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล100% ของโค้กมีวางจำหน่ายแล้วใน 18 ประเทศทั่วโลก และปัจจุบันกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง


การให้คำสัญญาดังกล่าวนี้ หมายความว่า


ประการแรก โคคา-โคลาจะต้องทำให้ขยะจากบรรจุภัณฑ์สินค้าเครื่องดื่มของตนเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลขยะไม่น้อยกว่า50% ที่ส่งออกจำหน่ายในอีก 11 ปีข้างหน้า


ประการที่สอง การดำเนินการดังกล่าว โค้ก หรือ โคคา-โคลา จำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการดักจับขยะจากบรรจุภัณฑ์ของตนที่ทำจากวัสดุที่สามารถรีไซเคิลขยะได้ครบถ้วนและทำให้กลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมดจริงๆ ในขณะที่ปัจจุบันการเคลื่อนย้ายของขยะบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ ถือว่าอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทและแม้แต่ของรัฐบาลท้องถิ่นเองด้วยซ้ำ


ประการที่สาม ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่นี้เทียบกับขนาดของธุรกิจของ โคคา-โคลา ที่มีการผลิตภาชนะพลาสติกไม่น้อยกว่า3 ล้านตันในปี 2017 ที่ผ่านมา ไม่ใช่ทำให้สำเร็จได้โดยง่ายดายและขณะนี้ โคคา-โคลา ก็เป็นเพียงไม่กี่บริษัทในโลกที่สัญญาจะทำให้เกิดความยั่งยืนของขยะพลาสติกด้วยการรีไซเคิลขยะ100%


ประการที่สี่ เหตุผลสำคัญของการให้คำมั่นสัญญานี้มาจากบรรดาแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในโลกได้เดินไปในทิศทางเดียวกันในการสัญญาที่จะร่วมมือในการลดขยะเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและแสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบทางลบของธุรกิจเองที่มีต่อโลกและมาจากความพยายามในการควบคุมห่วงโซ่อุปทานได้มีประสิทธิผลมากขึ้นไม่ได้ผลิตวัสดุที่ทำลายโลกเพิ่มเติมอีกในอนาคต


สำหรับอุปสรรคสำคัญๆ ที่ โคคา-โคลา เผชิญหน้าจากการให้คำมั่นสัญญานี้คือ


ประการแรก ทางบริษัทฯ ต้องทำให้ภาชนะบรรจุสินค้าของตนเป็นประเภทรีไซเคิลได้ 100% ก่อนซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ที่ปี 2025


ประการที่สอง บริษัทต้องทำให้เกิดการเรียนรู้ของผู้บริโภคและเปลี่ยนพฤติกรรมการทิ้งขยะสู่การรีไซเคิลให้ถูกต้องทั้งหมดและให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสภาพแวดล้อมรอบตัวผู้บริโภคที่ทำให้เกิดการรีไซเคิลได้จริงเป็นการเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อระหว่างการดำเนินงานกับชุมชนที่จำหน่ายสินค้าอย่างยั่งยืนก่อน

 

ในกรณีนี้ โค้ก หรือ โคคา-โคลา ได้จัดทำถุงขยะสีน้ำเงิน Blue Recyclingbin ไว้ตามถนนในเมืองเป้าหมาย ที่จะเป็นต้นแบบและทำการเรียนรู้ผลการสนองตอบ เพื่อนำไปปรับปรุงใช้ในพื้นที่อื่นๆ ทั้งหมดต่อไป




\'โค้ก\' ติดอันดับผู้สร้างขยะพลาสติกอันดับ 1 ของโลก






นอกจากนั้น โคคา-โคลา ได้ให้เงินสนับสนุนแก่องค์กรที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อมในการช่วยเป็นกำลังสำคัญทำให้เกิดการรีไซเคิลจริงในแต่ละพื้นที่ ซึ่งได้จ่ายจริงไมปแล้วกว่า 5.4 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่จะเป็นการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในการนำขยะสู่กระบวนการรีไซเคิล


การให้เงินสนับสนุนนี้มีผลทันควัน เพราะทำให้เกิดโครงการรณรงค์มากมายในแต่ละพื้นที่ที่มาจากภาคีเครือข่ายที่ได้รับเงินสนับสนุนจากโค้กไป

 


\'โค้ก\' ติดอันดับผู้สร้างขยะพลาสติกอันดับ 1 ของโลก





ในส่วน 'เป๊ปซี่' ก็ได้ตั้งเป้าที่จะลดพลาสติกในธุรกิจเครื่องดื่มลง 35%ภายในปี 2025 ในขณะที่ 'เนสท์เล่' เผยว่า ในตอนนี้บริษัทฯ กำลังเพิ่มความพยายามในการทำให้บรรจุภัณฑ์ของตนเองสามารถรีไซเคิลได้ 100% หรือใช้ซ้ำได้อีก ภายในปี 2025 เช่นกัน

 


\'โค้ก\' ติดอันดับผู้สร้างขยะพลาสติกอันดับ 1 ของโลก




\'โค้ก\' ติดอันดับผู้สร้างขยะพลาสติกอันดับ 1 ของโลก



หากจะพูดถึงเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Coca-cola หรือ โค้ก อยู่มาได้นานกว่า 134 ปี 


หนึ่งในนั้นก็คือ การปรับเปลี่ยนแบรนด์ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา ทั้งในแง่ของการรีแบรนด์ให้เข้ากับยุคสมัย หรือการเพิ่มสูตร Coke Light,Coke Zero เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์สุขภาพที่ผู้บริโภคสนใจเป็นพิเศษ อีกเช่นกัน


ในวันที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจและตระหนักถึง เรื่องสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกมากขึ้นทุกวัน โค้ก ก็ปรับเปลี่ยนตามด้วยการปล่อยแพ็กเกจจิ้งแบบใหม่ ที่นำขยะพลาสติกใต้ท้องทะเลมาทำให้มันกลายเป็นขวดพลาสติกที่ใช้บรรจุโค้กอีกครั้ง!!


" เอาขยะ มาใส่ของกิน อย่าเพิ่งคิดว่านี่คือเรื่องที่สกปรก


เพราะนี่คือขวดพลาสติกที่โค้กทำการวิจัยร่วมกับบริษัทที่ทำให้ขยะพลาสติกกลับมาใช้งานได้อีกครั้งอย่าง Ioniqa"


ด้วยวิธีการแยกสารบางอย่างออกมาจากขยะขวดพลาสติกจากนั้นก็นำมาหลอมรวมเพื่อผลิตใหม่อีกครั้ง ทำให้สะอาดจนกลายเป็นขวดใหม่ที่มีส่วนผสมจากขวดที่เป็นขยะพลาสติกอยู่ 25%


โดย โค้กขวดรักษ์โลกนี้ 


ถูกผลิตมาจากขยะพลาสติกริมทะเลที่อาสาสมัครเก็บสะสม


มาจาก 84 ชายหาดในประเทศสเปนและโปรตุเกส


แม้ว่า..จะยังผลิตได้เพียงแค่ 300 ขวด แต่..300 ขวดนี้ 


ก็เป็นสัญญาณและจุดเริ่มต้นที่ดี 


ที่สะท้อนให้เห็นว่าในอนาคตแบรนด์ใหญ่ระดับโลกอย่างโค้กจะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

 

หลาย ๆ แบรนด์ ต่างออกมาทำให้แพ็กเกจของตัวเองสามารถนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เพื่อร่วมในการลดขยะ ลดภาระให้กับโลกใบนี้ของเราทุกคน รวมไปถึงการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้เช่นเดียวกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง "โค้ก" แต่ที่พิเศษกว่าแบรนด์อื่น ๆ นั้นคือการที่โค้กใส่ความสนุกลงไปในการ "รียูสแพ็กเกจ" ด้วยอีกทาง 


ความสนุกที่ว่า ก็คือการเปลี่ยนกระดาษแข็งที่ใช้ห่อหุ้มตัวขวดให้กลายมาเป็น VR หรือ VirtualReality โลกเสมือนจริง ให้ลูกค้าได้มาเล่นกันโดยแพ็กเกจที่ว่าจะมาในรูปแบบของโค้กแคน 12 กระป๋อง และโค้กลิตร 2 ขวดให้ผู้บริโภคได้เลือกแบบที่ต้องการตามใจชอบ ส่วนวิธีการเปลี่ยนให้กล่องกระดาษกลายเป็น VR ทำให้กลุ่มลูกค้ามีความตื่นตัวมากยิ่งขึ้นในการรู้จักและสนิมสนมกับแบรนด์สินค้าได้มากยิ่งขึ้น

\'โค้ก\' ติดอันดับผู้สร้างขยะพลาสติกอันดับ 1 ของโลก


\'โค้ก\' ติดอันดับผู้สร้างขยะพลาสติกอันดับ 1 ของโลก


ขอขอบคุณแรงบันดาลใจของข่าวนี้ ที่มาข้อมูล : 


องค์กร 'Break Free fromPlastic' 



The Guardian | https://bit.ly/37N1MNZ



Designboom | https://bit.ly/33Si1Id



Credit: designboom




และที่มาจาก 9to5mac

 

 

ขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมใจกันลดขยะ เพื่อโลกใบนี้และเพื่อเราทุกคนบนโลก..ในการร่วมใจกันลดขยะและหันมารีไซเคิลขยะโดยจริงจังและพร้อมเพรียง

 

 



logoline