
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี และนายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าห้วยศาลา ได้ลงพื้นที่สอบสวน ชาวกัมพูชา ด้วยตนเอง ขณะที่ได้รับข่าวว่า มีการปะทะ กับกลุ่มขบวนการทำไม้ชาวกัมพูชา ซึ่งติดอาวุธสงคราม AK 47 (อาก้า) กลุ่มขบวนการค้าไม้ได้ยิงใส่ จนท. ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา กับทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 จนท. ทหารพรานร้อย 2601 จนได้รับบาดเจ็บ ยิงเข้าด้านหลังทหาร 1 นัด หลังปะทะ จนท ฝ่ายไทย จับได้ 1 คน เป็นชาวกัมพูชาชื่อ นายแง็น โสแว้ย อายุ 50 ปี
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ. สบอ. 9 ได้สอบสวน ผู้ต้องหา ได้ให้การอ้างว่า ตนไม่ได้เป็นคนตัดโค่นไม้ เลื่อยไม้ และ ไม่ได้ใช้อาวุธปืน AK 47 (อาก้า) ยิงเจ้าหน้าที่ และไม่ใช่ปืนของตน โดยอ้างว่าตนรับจ้างมา แบกไม้ เท่านั้น และไม่ได้เป็นคนโค่นไม้ตะเคียนต้นดังกล่าวแต่อย่างใด
ในขณะที่สอบสวนโดยสอบสวนผ่านล่าม ผู้ต้องหาพยายาม บ่ายเบี่ยงอ้างว่าตนเป็นแค่คนรับจ้างมาแบกไม้เท่านั้น และไม่ใช่ทหารกัมพูชา ต่อมาผู้ต้องหา ได้บอกว่า มากัน 5 คน ใน5คนนั้นมี 2 คนเป็นทหารกัมพูชามีหน้าที่ คอยคุ้มกันอีก 2 คน มีหน้าที่โค่นไม้และแปรรูปไม้ ส่วนตนมีหน้าที่แบกไม้เท่านั้น
นายชัยวัฒน์ จึงได้ สั่งการให้ จนท นำเสื้อและกางเกง มาเปลี่ยน ให้ผู้ต้องหา เพื่อจะนำเสื้อผ้าของผู้ต้องหา นำไปพิสูจน์หาหลักฐาน คราบน้ำมัน และ ขี้เลื่อย ในเสื้อผ้าของผู้ต้องหา นำเป็นพยานหลักฐาน มัดตัวผู้ต้องหา ให้ได้ว่า คราบน้ำมัน /เศษขี้เลื่อย และ รอยนิ้วมือ ของผู้ต้องหา นั้น ตรงกับ น้ำมันเครื่อง ของเลื่อยโซ่ยนต์ และที่สำคัญลายนิ้วมือ ในปืน AK 47 (อาก้า) นี้ ตรงกับผู้ต้องหาหรือไม่ เพราะผู้ต้องหา อ้างว่าตนไม่ได้โค่นไม้ ตัดไม้ แต่มาแค่แบกไม้ เพื่อให้พ้นข้อหา ทำไม้ ซึ่งข้อหานี้ มีโทษหนัก และ ตรวจสอบลายนิ้วมือในอาวุธปืนสงคราม เพื่อให้ทราบว่า ปืนอาก้ากระบอกดังกล่าว ผู้ต้องหาได้ใช้เอง หรือไม่
ส่วน จนท. ทหาร 1 นายที่บาดเจ็บถูกกระสุนปืน AK47 เข้าด้านหลัง 1 นัด เข้าบริเวณ ด้านซ้าย กระสุนทะลุด้านหน้า ผ่านระหว่าง แผ่นหลังกับช่องแขน ซึ่งขณะนี้ปลอดภัย จนท. ได้ส่งตัวถึง โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์อ วารินชำราบ จ อุบลราชธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่ง ผู้ต้องหา ให้การต่อว่า การยิงเพื่อต่อสู้นั้นมาจากชุดคุ้มกัน ซึ่งเป็นทหาร และเป็นคนที่นำชี้ให้ตน มาแบกไม้ และตนไม่ได้เป็นคนยิง
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อ เวลา 10.00 น.วันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ขสป. ห้วยศาลา ชุด Smart Patrol. ร่วมกับ.หน่วยเฉพาะกิจ ที่ 3 จนท. ทหารพราน ร้อย 2601 ได้ร่วมกันลาดตระเวนชายแดน พบการลักลอบตัดไม้ตะเคียน บริเวณทิศตะวันตก "พลาญจาก" จับกุมชาว กัมพูชาได้ 1 คน. อาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง ไม้ตะเคียนทอง จำนวน 1 ต้น ถูกตัดโค่นและแปรรูปด้วยเลื่อยโช่ยนต์
ขณะเข้าจับกุม มีการยิงปะทะกับ กลุ่มตัดไม้ เป็นเหตุให้ ร.ท. ศิวะเทพ บุญล้อม ถูกยิงบริเวณหลังด้านซ้าย ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หลังจากนั้น มีกองกำลัง โดยมาพร้อมกับเสียงรถยนต์ และเสียงปืนดังมาสมทบกับ ขบวนการทำไม้ ดังกล่าว ซึ่งการเสริมกำลังของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย จนทำให้ จนท. ทั้ง ขสป. ห้วยศาลา และหน่วยทหารดังกล่าว ต้องถอยล่น และเอาตัวผู้ต้องหา และปืนของกลางที่ยึดได้ ออกจากพื้นที่ มาก่อน
ล่าสุดเช้าวันนี้ (28 ตุลาคม) พันเอกลิขิต สมานมิตร ผบ. ฉก3 จะนำตัวผู้ต้องหา และนำอาวุธปืน AK 47 (อาก้า) ซึ่งได้ขออายัดตัว ผู้ต้องหาและของกลาง ต่อพนักงานสอบสวน โดยใช้อำนาจทางการทหาร เพื่อขยายผล ให้ผู้ต้องหานำชี้หาตัวผู้ที่ซุ่มยิง ร.ท. ศิวะเทพ บุญล้อม จนได้รับบาดเจ็บ และเก็บหลักฐาน ในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม กำลัง จนท. ทุกส่วนจะเข้าไป ตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง และอาจจะต้องมีการเจรจาต่อรอง กับ ทหารหน่วยความมั่นคงของกัมพูชา เพื่อให้สั่งห้าม มิให้ มีการตัดไม้ และล่าสัตว์ป่า ในเขตพรมแดน ที่ยังไม่ได้ปรักปรำเขตแดนอีก