จากกรณีที่ผู้ชุมนุมต้านเผด็จการ ออกมาโพสต์โซเชี่ยลมีเดีย คอมเม้นต์เรียกร้องให้เหล่าคนดัง ดารา ศิลปิน โพสต์แสดงความคิดเห็นหรือจุดยืน หรือ Call Out จนติดเทรนด์แฮชแท็ก #วันนี้ดาราcalloutหรือยัง และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ลามไปถึง ดารา หรือ ศิลปิน ที่ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหว หนึ่งในนั้นคือ ติช่า กันติชา ชุมมะ หรือ ติช่า เดอะเฟซ ที่ถูกชาวเน็ตรายหนึ่ง เข้ามาคอมเมนต์ใต้ภาพ ถามว่า ทำไมถึงไม่ออกมา Call Out? ซึ่งสาว ติช่าก็ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้
ถามถึงตอบกลับชาวเน็ต หลังถูกกดดันให้ Call Out แสดงจุดยืนทางการเมือง?
"ถามว่าช่วงนี้กดดันไหม กดดันนะ ยอมรับว่ากดดันเลยใันเป็นสถานการณ์ที่ตอนนี้ตึงเครียดกับหลาย ๆ ฝ่ายเพราะเราเจอโควิดมาแล้วรอบหนึ่ง แล้วมาเจออันนี้อีก เราก็เลยเครียดหลาย ๆ อย่าง ตัวเราก็โดนกดดันเรื่องนี้ แล้วเชื่อว่าไม่ใช่แค่เราคนเดียว ดาราหลายๆ ท่านก็โดนกดดันเช่นกัน อันนี้เป็นอะไรที่เราหนักใจเช่นกัน ว่าเราจะทำยังไงดี ให้เราเป็นกลางเท่าที่เราจะทำได้ เราพการที่เราเป็นกระบอกเสียงหลายคนก็ถามว่าทำไมคุณไม่ออกมาใช้เสียงบ้าง แต่เราที่เราจะใช้เสียงเราต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่เราพูดไปด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเป็เนรื่องที่เราไม่ได้เข้าใจร้อยเปอร์เซ็น
เพราะถึงแม้เราจะมีเมนไอเดีย แต่ว่ามันจะมีแตกแขนงนู่นนี่นั่นมา มันอาจจะมีอื่น ๆ ที่เข้ามาเพราะฉะนั้นเราขอรอดูก่อน เพราะมันเป็นความรับผิดชอบของช่า เวลาเราจะพูดอะไรเราต้องเข้าใจลึกซึ้ง การจะเปบี่ยนมันไม่ใช่การใช้โซเชียลมีเดียไปกดดัน ว่าเธอต้องคิดแบบฉันนะ เธอต้องทำตามฉันนะไม่อย่างนั้นฉันจะด่าเธอ แล้วคนที่เขาออกมาเพราะโดนกดดันหนูว่าอันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่สุด เราออกมาเพราะเราเชื่อแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกมาพูดอะไร เพราะฉะนั้นการที่หนูจะออกมาพูดอะไรมันสามารถชี้นำคนอื่น ๆได้ ซึ่งหนูคิดว่าทุกคนควรจะมีเสรีในการออกความคิดเห็น ในการแสดงออกของตัวเองแล้วหนูคิดว่าในเรื่องที่ละเอียดอ่อนแบบนี้ ด้วยความที่หลายคนมีหลายความคิดเห็น เราควรปล่อยให้เขามีความคิดของตัวเองให้เขาแสดงออกด้วยตัวเขาเองไม่ใช่ไปบอกว่าเขาต้องทำแบบนั้นแบบนี้"
เห็นอธิบายเรื่องการศึกษาจากต่างประเทศด้วย?
"ใช่ค่ะ คอมเมนต์ที่ได้มาก็คือมันมีการเปรียบเทียบเยอะ แล้วก็มีการถามว่าติช่าโตที่สวีเดน ทำไมที่นั่นเขาไม่ได้สอนเรื่องประชาธิปไตยเหรอ แล้วก็บอกว่าที่ตนเองเรียนมาตอนอยู่ที่สวีเดน เขาสอนว่าประชาธิปไตยมันคืออะไร แต่คุณครูจะไม่ออกความเห็นว่าฉันคิดแบบนี้นะเพราะความคิดของคุณครูมันสามารถไปโน้มน้าวความคิดของคนอื่นได้ ถ้าเกิดฉันคิดแบบนี้แล้วไปบอกคนอื่น เขาไม่ทำ
เขาจะแค่แบบว่าฉันแค่สอนเธอว่านี่คืออะไรนะ ถ้าเกิดเธอจะเอาไปคิดหรือไปมีความเห็นอะไรมันเป็นเรื่องของเธอ ซึ่งก็คิดว่าตัวเองการที่เรามีผู้ติดตาม ไม่ว่าเราจะออกความคิดเห็นอะไรมันสามารถมีอิทธิพลให้คนอื่นคิดเหมือนกับเราได้ ซึ่งคิดว่าทุกคนควรจะมีเสรีในการออกความคิดเห็นในความคิดของตัวเองในการแสดงออกของตัวเอง แล้วหนูคิดว่าในความเห็นที่เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนแบบนี้ คุณสามารถที่จะออกมาพูดด้วยความสมัครใจของคุณจริงๆ ตอนที่คุณแบบต้องการอย่างนั้นจริงๆ คิดแบบนั้นจริงๆ ในจุดที่ตัวเองอยู่ว่าทำได้ไหม เพราะว่าหลายคนต้องคิดหน้าคิดหลังเยอะเหมือนกัน แล้วตอนนี้เราคิดว่ามันอยู่ในระบบ แต่ระบบของเรามันก็จะมีประชาชนที่เห็นด้วยและไม่ได้เห็นด้วย ถ้าเกิดคนในประเทศของเราคิดเหมือนกันหมด 100% ทุกอย่างตรงกันเราไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ด้วยว่าตอนนี้มันมีหลายความคิดหลายความแตกต่างมันก็เลยจะมีความแบบเอ้อ...ยากนี้นิดหนึ่งค่ะ"
แบบนี้จะมีวิธีจัดการกับความกดดันที่เกิดขึ้นยังไง?
"ในมุมมองของนักแสดงตอนนี้โดนกดดันว่าคุณต้องทำอย่างนี้นะ เพราะไม่งั้นจะเป็นแบบนี้ๆ หลายคนก็จะรู้สึกว่าแล้วจะมาพูดยังไงดีในเมื่อฉันอยู่ในจุดที่แบบว่าต้องรอก่อนหรือดูก่อน เพราะบางอย่างเราเห็นด้วยถึงขั้นหนึ่ง แต่มีอีกแค่บางจุดที่เราอย่างงี้อย่างงั้นอยู่ เราก็เลยต้องรอ แล้วอีกอย่างหนึ่งคนมาคอมเมนต์ว่าทำไมพอเรื่องตัวเองพูดง่าย แน่นอนเรื่องตัวเองพูดง่าย เพราะมันเป็นเรื่องของหนูเอง มันเป็นเรื่องที่หนูไม่ต้องมานั่งรับผิดชอบหลายๆ ความคิดเห็น มันเป็นเรื่องที่มันพูดง่ายไงอาจจะเป็นไลฟ์สไตล์ อาจจะเป็นความสัมพันธ์ มันไม่ได้ไปทำร้ายคนอื่นหรือไม่ได้ไปมีอิทธิพลต่อความคิดของคนอื่นในด้านใดด้านหนึ่งอ่ะค่ะ ช่าเลยคิดว่ามันเป็นความรับผิดชอบของคนที่มีกระบอกเสียงที่ควรจะปล่อยให้คนอื่นเขามีความคิดเป็นของตัวเอง แล้วก็ให้เขาแสดงออกในแบบของตัวเอง"
แสดงว่าคงไม่ได้ไปม็อบใช่ไหม?
"Oh you dont know that! ตอนนี้หนูยังพยายามแบบว่าสังเกตการณ์ก่อนค่ะ ซึ่งมันควรจะเป็นอย่างนั้น"