svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ทีพีพี เฮลท์แคร์ฯ ปั้น 'เมดพาร์ค' ฮับการแพทย์เฉพาะทาง

23 ตุลาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทีพีพี เฮลท์แคร์ฯ รุกธุรกิจโรงพยาบาล ทุ่มงบฯ 7 พันล้าน ปั้น 'เมดพาร์ค' ชูจุดขายเน้นรักษาโรคยาก-โรคซับซ้อน เตรียมพร้อมรองรับต่างชาติที่จะเข้ามารักษาพยาบาลในไทยหลังโควิดคลี่คลาย

ศูนย์วิจัยKrungthai Compass ธนาคารกรุงไทย ประเมินภาพรวมรายได้ของโรงพยาบาลเอกชนปี 2563 จะหดตัวกว่า 6-8% จากปี2562 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ทำให้จำนวนคนไข้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติลดลง โดยคาดว่าธุรกิจโรงพยาบาลน่าจะกลับมาพลิกฟื้นรายได้ประมาณปี2564 กลับมาขยายตัวได้ 8-10% เนื่องจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวยังมีข้อจำกัด


 


โควิด-19เป็นตัวเร่งให้ Digital Health หรือHealth Tech ในไทยเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น และกลายเป็น NewNormal ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ทำให้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเพื่อมาสนับสนุนการให้บริการทางสุขภาพที่หลากหลาย

 


ทั้งนี้ภาพรวมของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ตั้งแต่ปลายไตรมาสแรกและต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้ ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งต้องเร่งปรับตัวและชะลอการลงทุนเพื่อรอให้สถานการณ์คลี่คลายพร้อมเปิดรับต่างชาติที่จะเข้ามารักษาพยาบาลในไทย แต่ล่าสุดมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งใหม่เกิดขึ้นในชื่อของ'เมดพาร์ค' เปิดให้บริการในใจกลางย่านธุรกิจบนถนนพระราม4

 

นายแพทย์พงษ์พัฒน์ปธานวนิช รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีพี เฮลท์แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดในฐานะกรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลเมดพาร์ค ระบุ ขณะนี้โรงพยาบาลเมดพาร์คได้เริ่มเปิดให้บริการรักษาพยาบาลในเฟสแรกแล้วบางส่วนเพราะขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ปกติ นอกจากการให้บริการกลุ่มคนไทยหรือชาวต่างประเทศที่พักในประเทศไทยแล้วอนาคตต่อไปหลังจากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติก็จะมีชาวต่างประเทศด้วย

 

ทั้งนี้ในอนาคตมีเป้าหมายยกระดับให้เป็นสถาบันการแพทย์ที่มีความเป็นเลิศทั้ง 3 ส่วนคือ การบริการทางการแพทย์ การเรียนสอน และการวิจัย เพื่อสนับสนุนให้บุคลากรเพิ่มพูนองค์ความรู้ให้ก้าวหน้าอยู่เสมอและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ นำไปสู่แนวทางการดูแลรักษาคนไข้ โดยเฉพาะโรคยากและซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

สำหรับมูลค่าการลงทุนของโครงสร้างนี้รวมประมาณ7,000 ล้านบาท และได้สิทธิและประโยชน์ทางด้านภาษีอากรจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน4 ส่วน คือ ศูนย์หัวใจ ศูนย์มะเร็ง ศูนย์ไต และศูนย์วินิจฉัยแล็บ สามารถให้บริการห้องตรวจผู้ป่วยนอก300 ห้อง และรองรับผู้ป่วยค้างคืนได้สูงสุด 550 เตียงเมื่อเปิดให้บริการเต็มโครงการ ส่วนในเฟสแรกขณะนี้เปิดให้บริการผู้ป่วยค้างคืนจำนวน205 เตียง และรองรับผู้ป่วยวิกฤตจำนวน 65 เตียง

 

นอกจากนี้ยังเดินหน้าสร้างเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพการบริการทางการแพทย์ในทุกด้านซึ่งจะเป็นแนวทางนำไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

logoline