
( 19 ต.ค.63 ) ที่ จ.ชัยภูมิ ยังได้รับอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน ระดับ 2 จากทะเลจีนใต้ตอนล่าง พาดผ่านจังหวัดชัยภูมิ ส่งผลให้เกิดฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้ปริมาณน้ำตามแหล่งเก็บกัก ในเขื่อน หรืออ่างต่าง ๆ มีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างอย่างต่อเนื่อง มีการแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์เสี่ยงเกิดน้ำหลากท่วมฉับพลัน
โดยเฉพาะในพื้นที่มีเขื่อน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ล่าสุดมี 2 แห่ง ที่เขื่อนจุฬาภรณ์ อ.คอนสาร ระดับน้ำได้ใกล้เต็มความจุอยู่ที่ 164 ล้านลูกบาศก์เมตร ล่าสุดระดับน้ำอยู่ทีกว่า 147 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 90%ของความจุอ่าง จึงต้องมีการเร่งระบายน้ำออกท้ายเขื่อน ไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยกุ่ม ผ่านเชื่อมต่อไปที่อ่างน้ำพรม หรือเขื่อนโนนเขวา ตำบลโนนทอง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ทำให้ระดับน้ำล้นทางระบายน้ำล้นฉุกเฉิน ความสูงกว่า 20 ซ.ม. ซึ่งกระแสน้ำไหลแรง ต้องมีการให้สัญญาชักธงแดง แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง และห้ามผ่านหรือลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด
และอีกจุดที่อ่างเก็บน้ำลำช่อระกา ต.นาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ พื้นที่รับน้ำเหนืออ่าง ได้ไหลเข้าอ่างจำนวนมากเช่นกัน จนทำให้ระดับน้ำไหลเข้าอ่างเกินความจุของอ่างกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตร( ลบ.ม.) ซึ่งเป็นปริมาณน้ำมากที่สุด ในรอบกว่า 10 ปี ล่าสุดมีปริมาณน้ำเกินความจุของอ่างสูงกว่า 12.77 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 118.29% ที่ยังมีน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องล้นข้ามอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉินประมาณกว่า 5 ซม. ต้องเปิดประตูระบายน้ำออกตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้น้ำท้ายอ่างลำน้ำช่อระกา มีปริมาณสูงขึ้น ผู้ที่อาศัยอยู่ตามสองฝั่งลำช่อระกาตามที่ลุ่ม เก็บข้าวของเครื่องใช้ขึ้นที่สูงไว้ก่อน จนกว่าระดับน้ำและฝนจะหยุดตก