นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่าขณะนี้ได้มีการติดตามเฝ้าระวังการสื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดียว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารโดยหากมีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายก็จะถูกดำเนินคดี เนื่องจากขณะนี้มีการประกาศและบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
โดยนายพุทธิพงษ์ ยอมรับว่าตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมามีการพยายามใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารหลากหลายรูปแบบ โดยในวันนี้เวลา 11.00 น ได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวง แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้โซเชียลมีเดียไปในทางที่ผิดกฎหมาย ราว 300,000 URL ซึ่งรวมไปถึงสำนักข่าวหรือเพจข่าวที่มีเนื้อหาเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย ส่วนจะแค่สั่งปิดหรือเป็นการแจ้งเตือนต้องดูในรายละเอียดอีกครั้ง แต่หากมีคำสั่งศาลจำเป็นต้องสั่งปิด โดยหากเป็นทีวีดิจิตอลต้องมีการประสานไปยังกสทช. ซึ่งการดำเนินคดีจะต้องดูในข้อกฎหมายว่าเข้าข่ายกระทำความผิดอย่างไรฉบับใดบ้าง ซึ่งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังและรอบคอบไม่ได้เลือกปฏิบัติกับใคร ยืนยันดำเนินการภายใต้กรอบไม่ได้ปิดกั้นสิทธิ์ของประชาชน พร้อมฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังการใช้โซเชียลมีเดียไม่ให้มีเนื้อการยุยงปลุกปั่น และบิดเบือนข้อมูล
ทั้งนี้ยอมรับว่าคำสั่งที่ลงนามโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกรณีห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่เข้าขายยุยงปลุกปั่นในโซเชียลมีเดียบางฉบับเป็นเอกสารจริงแต่ไม่ใช่ทั้งหมด
ส่วนกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเรียกประชุมฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลเพื่อหาทางออกร่วมกันในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ ว่าจะมีการขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญหรือไม่ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของสภา และในวันนี้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลก็จะเดินทางเข้าร่วมประชุมด้วย ส่วนผลการหารือจะเป็นอย่างไรนั้นจะนำกลับมาพูดคุยภายในพรรคพลังประชารัฐอีกครั้งว่าจะตัดสินใจอย่างไร
ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้มีการหารือเรื่องการเปิดประชุมสมัยวิสามัญแต่อย่างใด