
โรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) หรือโรคฉี่หนูเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า เชื้อเลปโตสไปร่า (Leptospira) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลรอยขีดข่วน รอยถลอกตามผิวหนัง เยื่อบุตา จมูก ปากหรือโดยการไชเข้าทางผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานานซึ่งมักจะระบาดหน้าฝนและโดยเฉพาะหลังน้ำลด
พบผู้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในเกษตรกรที่ต้องเดินลุยน้ำ มีน้ำขัง หรือพื้นดินชื้นแฉะที่มีโอกาสปนเปื้อนปัสสาวะสัตว์ได้แก่ วัว ควาย หมู หมา แพะ หนู รวมทั้งผู้ที่ทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์/โรงฆ่าสัตว์/ผู้ที่ชำแหละสัตว์ที่มีเชื้อโรคฉี่หนูทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคนี้
การป้องกันโรคฉี่หนู ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำขังเนื่องจากหนู หมู วัว และควายอาจจะมาปัสสาวะไว้ ทำให้มีปริมาณเชื้อเข้มข้นหลีกเลี่ยงการลุยน้ำที่ท่วมขังหรือโคลน พื้นที่ชื้นแฉะ โดยเฉพาะเมื่อมีบาดแผลรอยถลอก ขีดข่วน หากต้องเดินย่ำน้ำตามตรอก ซอก ซอย คันนา ท้องนา ท้องไร่ ควรสวมรองเท้าบูทถุงมือ หรือชุดป้องกัน
โรคไข้หนูกัด
เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่พบได้น้อยมากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตบาซิลลัส โนนิลิฟอร์มิส และสไปริลลัม ไมนัส ซึ่งพบได้มากในประเทศแถบทวีปเอเชีย โดยการแพร่เชื้ออาจเกิดจากการถูกกัด ขีดข่วนหรือสัมผัสกับปัสสาวะ อุจจาระ สารคัดหลั่งจากปาก ตา และจมูกของสัตว์ที่ป่วย อาการของโรคนั้น ไม่เกิน 7 วัน มีไข้ มีผดผื่นขึ้นตามร่างกายและข้ออักเสบ นานกว่านั้นอาจ มีแผลเปื่อยที่เกิดจากรอยกัดของหนูและต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น
โรคติดเชื้อไวรัสฮันตา
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮันตาที่พบในสัตว์ฟันแทะเช่น หนู กระรอก และกระต่าย มีอาการทั้งแบบรุนแรงและไม่รุนแรง หากมีอาการผู้ป่วยจะแสดงอาการในเวลา1-2 สัปดาห์หลังสัมผัสเชื้อไวรัส จะอ่อนเพลียมีไข้ และปวดตามกล้ามเนื้อ บางรายอาจปวดศีรษะ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียและปวดท้อง ต่อมาอาการจะกำเริบขึ้นจนทำให้หายใจไม่อิ่ม ไอ และเกิดภาวะน้ำในปอดนอกจากนี้ เชื้อไวรัสชนิดนี้อาจทำให้เกิดการป่วยรุนแรงที่จะเริ่มปรากฏอาการหลังได้รับเชื้อภายใน1-2 สัปดาห์ เช่น ปวดศีรษะ ปวดหลัง ปวดท้อง มีไข้ ปัสสาวะผิดปกติ ตาแดง
สำหรับผู้ที่ต้องสัมผัสกับน้ำท่วมขังควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอย่างเช่น รองเท้าบู๊ท ,ใช้พลาสติกสวมใส่รองเท้าเอาไว้ขณะลุยน้ำ จากนั้นรีบล้างเท้าด้วยน้ำสะอาด หรือหลีกเลี่ยงการลุยน้ำจะดีที่สุด