
ช่วงค่ำวันที่ (15 ก.ย. 63) ที่ผ่านมา บริเวณลานชุมชนสะพานหิน ม.1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่กรมประมง นำโดยนายนิคม สุขสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่จากศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดภาคใต้ จ.สุราษฏร์ธานี หรือ ไกรทองลุ่มน้ำตาปี พร้อมด้วยนายนรินทร์ มีวงศ์ ประมงจังหวัดภูเก็ต, นายประเสริฐ ทองสมบูรณ์ ประมงอำเภอเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่และชาวบ้านชุมชนคลองเกาะผี หมู่บ้านสะพานหิน รวมกว่า 10 นาย ช่วยกันนำอุปกรณ์ที่ใช้ในการจับจระเข้ ประกอบด้วย ไฟส่องสว่าง อวนตาข่าย บ่วง และน้ำดื่ม ลงเรือ เพื่อเดินทางเข้าไปตามคลองเกาะผีไปยังจุดที่มีชาวบ้านพบเห็นจระเข้ขึ้นมานอนอาบแดด และมีการนำภาพไปโพสต์ในโซเซียลมีเดีย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินการจับตัว เนื่องจากเกรงจะเป็นอันตรายกับผู้ที่หากินอยู่ในบริเวณคลองดังกล่าว โดยมีระยะทางห่างจากจุดที่ลงเรือไปประมาณ 300 เมตร เพื่อทำการจับตัว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ชุด ชุดแรกนำโดยนายนิคม สุขสวัสดิ์ ออกเดินทางไปล่วงหน้าโดยใช้เรือพายทำการส่องไฟสำรวจว่า จระเข้ออกหากินหรือหลบอยู่ในบริเวณใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 และ 3 ตามเข้าไปสนับสนุนด้วยเรือประมงพื้นบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดแรกไปถึงจุดตามที่ได้รับการบอกเล่า พบจระเข้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่เคยพบ จึงขอกำลังสนับสนุนก่อนช่วยกันนำอวนตาข่ายเข้าล้อมรอบจุดที่จระเข้หลบอยู่ และบีบวงให้แคบลง เพื่อต้อนให้เข้าไปยังจุดที่ต้องการ แต่ปรากฏว่าจระเข้ได้ใช้พละกำลังจำนวนมากฉีกอวนตาข่ายจนขาดวิ่นและมุดออกไปได้ ก่อนจะดำหายลงไปในลำคลอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการค้นหาใหม่ เนื่องจากพบว่า จระเข้ยังวนเวียนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงแต่ไม่สามารถจับตัวได้ จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันนี้ ( 16 ก.ย.) ซึ่งเป็นช่วงน้ำลงต่ำสุด เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ จึงได้ยุติภารกิจชั่วคราว
นายนิคม สุขสวัสดิ์ หัวหน้าชุด ไกรทองลุ่มน้ำตาปี เปิดเผยว่า จากการเข้าไปยังพื้นที่ครั้งนี้ สามารถพบเห็นจระเข้ได้อย่างชัดเจน แต่ยังไม่สามารถจับตัวได้เนื่องจากอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ยังไม่เหมาะกับสภาพพื้นที่ ส่งผลให้จระเข้สามารถหลบหนีไปได้ ประกอบกับจุดดังกล่าวเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับทะเล มีน้ำขึ้น - น้ำลง ทุกๆ 3 4 ชม.มีเวลาในการดำเนินการค่อนข้างจำกัด เพราะการจับจระเข้ช่วงที่น้ำขึ้นจะจับง่ายกว่าช่วงที่น้ำลง เมื่อน้ำลงจะทำให้จระเข้ฝังตัวในดินโคลน ไม่โผล่ตัวให้เห็น จึงยากต่อการค้นหา อย่างไรก็ตามในช่วงสายวันนี้ (16 ก.ย.63)จะมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกัน ก่อนเข้าดำเนินการค้นหาและจับตัวใหม่ในช่วงค่ำ
ขณะที่ชาวบ้านหลายรายที่มารอชมการจับจระเข้หลายรายเปิดเผยเพิ่มเติมว่า จระเข้ตัวดังกล่าวน่าจะอยู่อาศัยมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี เนื่องจากเคยพบเห็นจระเข้ตัวดังกล่าวตั้งแต่มีขนาดเล็ก จนกระทั่งล่าสุดมีขนาดความยาวเกือบ 2 เมตร โดยหลายครั้งพบเห็นแค่เสี้ยววินาทีขณะนอนอาบแดด บางครั้งสามารถขับเรือตามได้สักระยะก่อนมุดหายไป และจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ระบุว่าเรือลำไหนที่ผ่านทุกวัน จนมันจำได้หรือคุ้นเคยเสียงเรือลำนั้น จระเข้จะค่อยๆ คลานลงน้ำ