
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ส.ค. 63 หลวงตาเอียน ฐิตวิริโย วัดป่าโคกหม่อน ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ พระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นพระสายกรรมฐานอีกรูปหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ ที่ชาวสุรินทร์ให้ความเคารพศรัทธา ได้ละสังขารด้วยอาการอันสงบ สิริรวมอายุ 96 ปี ก่อนมรณภาพ หลวงตาเอียน ได้ทำพินัยกรรมสั่งเสียแก่ศิษยานุศิษย์ไว้เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 63 มีใจความระบุว่า บริจาคสังขารร่างกายให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อการศึกษาและประโยชน์ทางการแพทย์ท ถอนเงินบัญชีส่วนตัวของหลวงตาออกมาให้หมด แล้วแบ่งเป็น 3 ส่วน มอบให้โรงพยาบาลสุรินทร์ วัดบ้านเฉนียง และสร้างเจดีย์ และไม่ต้องจัดงานศพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเสียสละ มักน้อย สันโดษ ปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่น จากนั้นเวลา 13.50 น. คณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับนายอดิเทพ กมลเวชช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ คณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย ประกอบพิธีก่อนเคลื่อนสรีระสังขารของหลวงตาเอียน ไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพมหานคร โดยการดำเนินการจัดการศพเป็นไปอย่างเรียบง่าย ตามความประสงค์หลวงตาเอียน ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาและการแพทย์ต่อไป
หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย เจ้าอาวาสวัดป่าโคกหม่อน บ้านเฉนียง ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นพระปฏิบัติธรรมสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เกิดเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2467 เลือดเนื้อเชื้อสายแขมร์ สะเร็น เป็นลูกคนสุดท้อง ในจำนวนพี่น้อง 5 คน ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกร จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนบ้านทมอ อ.ปราสาท จากนั้นช่วยงานเกษตรของครอบครัวในปี พ.ศ.2498 อายุ 30 ปี ได้พบ หลวงปู่สาม อกิญจโน พร้อมชักชวนให้ลงภาคใต้ เพื่อเข้าบรรพชาที่วัดไม้ขาว ประกอบพิธีในอุทกุกเขปสีมา (โบสถ์น้ำ) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยมี พระครูนิโรธรังสี หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์วัน อุตตโม เป็นพระคู่สวดหลังบวชไปจำพรรษาที่วัดเจริญสมณกิจ (หลังสวน) อ.เมือง ภูเก็ต เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานกับหลวงปู่เทสก์ 1 พรรษา
ต่อมาย้ายไปจำพรรษาที่วัดท่าฉัตรชัย จ.ภูเก็ต 1 พรรษา จึงเข้าอำลาหลวงปู่เทสก์ กลับมาตุภูมิ และได้พบหลวงปู่สาม อกิญจโน สร้างที่พักสงฆ์ในป่าละเมาะริมถนนสายสุรินทร์-ปราสาท ก.ม.12 บ้านตระงอน ต.นาบัว ขณะนั้นยังไม่สร้างเป็นวัดป่าไตรวิเวก อยู่ จำพรรษากับหลวงปู่สาม 1 ปี แล้วย้ายไปจำพรรษาที่วัดป่าศรัทธาราม จ.นครราชสีมา 3 พรรษา แล้วลงภาคใต้อีกครั้งเพื่อนมัสการหลวงปู่เทสก์ ก่อนไป จำพรรษาในเขตพื้นที่ จ.กระบี่ และจ.พังงา 4 พรรษาขึ้นภาคอีสานนมัสการหลวงพ่อโชติ คุณสัมปันโรน วัดวชิราลงกรณ์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังทราบว่าหลวงปู่สามแนะนำให้ไปบวชกับหลวงปู่เทสก์จึงรับไว้เป็นศิษย์ สอนวิปัสสนากรรมฐาน 6 พรรษา ย้ายไปจำพรรษาที่วัดบ้านตะเคียน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 1 พรรษา จึงย้อนกลับไปเยี่ยมบิดา-มารดา ญาติโยมต่างเห็นว่าหลวงปู่เอียนแสวงหาวิเวกปฏิบัติธรรมเนิ่นนาน อายุเริ่มชราจึงหาวัดใกล้บ้านเกิดพ.ศ.2518 ชาวบ้านนิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าโคกหม่อนพ.ศ.2530 ได้จัดตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษา ให้เด็กนักเรียนยากจน มอบเงินทุนให้ในวันวิสาขบูชาของทุกๆ ปี พร้อมนี้ยังได้จัดตั้งมูลนิธิวัดป่าโคกหม่อนขึ้นเพื่อปฏิสังขรณ์วัด และเป็นทุนการศึกษาให้พระภิกษุสามเณร