svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

ตลกร้าย! สัสดีออกหมายเรียกให้น้องเมยไปเกณฑ์ทหาร

ชลบุรี-ครอบครัวน้องเมย แถลงสัสดีเมืองชลบุรีออกมาขอโทษแล้ว หลังออกหมายเรียกลูกที่เสียชีวิตไปเกณฑ์ทหารถือเป็นเรื่องตลกร้าย อ้างระบบของพลเรือนกับทหารยังไม่ประสานงานกัน ด้านพี่สาวน้องเมยเหน็บควรเอางบประมาณไปพัฒนาเทคโนโลยีดีกว่าไปซื้อยุทโธปกรณ์

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 18 สิงหาคม 2563 ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี ครอบครัว "ตัญกาญจน์" โดยมีนายพิเชษฐ์นางสุกัญญา และน.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พ่อแม่และพี่สาวของนายภคพงษ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย ที่เสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 หลังได้กลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ เพียงแค่ 1 วัน ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชล

ตลกร้าย! สัสดีออกหมายเรียกให้น้องเมยไปเกณฑ์ทหาร



ต่อกรณีทางสัสดีอำเภอเมืองชลบุรี ได้มีจดหมายเรื่องทหารกองเกินไม่มาแสดงตน เพื่อรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร ประจำปี 2563 ถึง นายภคพงษ์ ตัญกาญจน์ ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2563 พร้อมทั้งระบุว่า "ท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่ไม่ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร โดยไม่ปฏิบัติตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พุทธศักราช 2497 จึงให้ไปแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่สัสดีอำเภอเมืองชลบุรี ณ ที่ทำการสัสดีอำเภอเมืองชลบุรี ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563

ตลกร้าย! สัสดีออกหมายเรียกให้น้องเมยไปเกณฑ์ทหาร


เพื่อชี้แจงเหตุผลที่ท่านไม่ปฏิบัติตามหน้าที่กฎหมายกำหนดไว้ และเมื่อพ้นเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านจะถูกดำเนินคดีอาญาตามความผิดฐานหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่มาแสดงตน เพื่อรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร ตามมาตรา 44 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 300 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ลงชื่อ พันโท ประครอง วงศ์ใหญ่ สัสดีอำเภอเมืองชลบุรี ทำให้ครอบครัวของน้องเมยต้องออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้


โดยน.ส.สุพิชา พี่สาวน้องเมย กล่าวว่า ในวันนี้ทางด้านสัสดีอำเภอเมืองชลบุรี และสัสดีจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางมาขอโทษครอบครัวเรียบร้อยแล้ว ตนเองคิดว่าเป็นเรื่องของความผิดพลาดมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามตนเองยังสงสัยในเรื่องของระบบสารสนเทศจึงได้สอบถามไป

และได้รับคำตอบว่าระบบของพลเรือนกับทหารยังไม่ประสานงานกัน ก็งงเหมือนกับน้องชายเสียชีวิตไปแล้ว 3 ปี ยังไม่มีการรายงาน ซึ่งตนเห็นว่ากองทัพน่าจะเอางบประมาณไปพัฒนาเรื่องการสื่อสารและเทคโนโลยีจะดีกว่าเอาไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ จะได้มีการพัฒนาไปมากกว่านี้ เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นตลกร้ายจริงๆ

น.ส.สุพิชา ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีน้องเมยว่า มีทั้งหมด 3 คดียกฟ้องไป 1 คดี ส่วนคดีที่เหลือทั้งหมดเงียบ ส่วนตนเองได้ไปแจ้งความที่ สน.พญาไท แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะมีผลต่อรูปคดี โดยจะเกี่ยวข้องกับน้องเมยทั้งหมด หลังจากนั้นจะนำเรื่องไปร้องเรียนยังกรรมาธิการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง

ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่น้องเมยเสียชีวิตนั้นทางกองทัพได้มอบเงินมาให้ 1 แสนบาท ยังฝากไว้ ไม่ได้นำมาใช้แต่อย่างใด ส่วนเงินที่จะได้ชดเชยนับล้านบาทนั้นไม่มี สำหรับชีวิตทุกวันนี้หลังจากว่าความคดีต่างๆแล้ว และมาช่วยครอบครัวทำขนมไทยออกขาย เพื่อหาเงินสู้คดีกับต่อไป

ทางด้านนายพิเชษฐ์ กล่าวว่า รับหนังสือสัสดีแล้วเห็นว่าตลกดี หน่วยงานราชการไม่ประสานงานกันหรืออย่างไร ส่วนน้องเนยเสียชีวิตมาแล้ว 3 ปี ทุกวันนี้ยังเจ็บลึกๆ ในใจ