
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Travel ได้โพสต์ข้อความระบุว่า " อ้าวลุงรีบคืนเถอะ ชัดขนาดนี้รอดยาก ขอพลังโซเชียลจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆและกัลยาณมิตรที่น่ารักทุกท่านค่ะ แท๊กซี่ลักทรัพย์น้องชายต่ายค่ะ มีกระเป๋าเดินทาง โน๊ตบุ๊ค กระเป๋าเงิน ใครพบเห็นรถคันนี้ช่วยแจ้งด่วนค่ะ หรือช่วยสกัดจับด้วยนะคะ น้องชายเรียกแท็กซี่จากสนามบินดอนเมือง แต่มีปัญหา มีปากเสียงกันเนื่องจากน้องชายรู้ทางและเรียกรถแบบนี้บ่อย แต่เท็กซี่ขับรถพาอ้อมวนไปวนมา มิเตอร์พุ่งกระฉูด เสียค่าทางด่วนอีกหลายครั้ง พอไม่ยอมก็ทิ้งน้องชายให้ลงด่านทับช้าง 2 กาญจนาภิเษก บอกให้ไปเคลียร์ที่ สน.บางชัน ปล่อยให้น้องชายหาทางไปสน.กันเอง และรีบขับรถออกไปพร้อมทรัพย์สินทั้งหมดและก็แท็กซี่ไม่ไปที่สน. แท๊กซี่เขียวเหลือง ทะเบียน XXXXXX "
ระบุต่อว่า " ตอนนี้แจ้งความไว้ที่ สน.บางชัน แล้วค่ะ ผู้รับตามคดี ร.ต.อ.ประชา เมืองมัจฉา เรื่องยังไม่คืบหน้าเลยค่ะ ดำเนินการช้ามาก น้องชายต้องไปไล่ตามหาเอง และโน้ตบุ๊คมีข้อมูลสำคัญเรื่องงานทั้งหมดด้วยต่ายขอพลังโซเชี่ยลจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆและกัลยาณมิตรที่น่ารักทุกท่านช่วยติดตามด้วยนะคะ ด่วนมากค่ะ ใครมีเบาะแสหรือช่วยติดตามได้รบกวนติดต่อมาที่ต่ายด้วยนะคะ "
และล่าสุดได้มีการอัพเดทโดยระบุว่า " ได้ของคืนแล้วค่ะ น้องชายต้องขับมอร์ไซค์ฝ่าฝนไล่ล่าคนร้ายด้วยตัวเองตั้งแต่เช้า วันนี้ทั้งวัน ฝนก็ตกหนัก เปียกไปทั้งตัว ได้ของคืนหมด แต่เงินในกระเป๋าตังค์หายไปบางส่วน และเราก็ไม่มีหลักฐานระบุชัดเจนว่าเท่าไหร่ (แย่จัง) แถมน้องชายยังต้องจ่ายค่าแท๊กซี่ให้ไปอีก500บาท (ค่าแท็กซี่ที่พาวนอ้อมไปอ้อมมาจนมิเตอร์กระฉูด) แต่ส่วนคดีอาญา คดีลักทรัพย์ และคดีอื่นๆมอบให้ทางผู้กองของสน.บางชัน ยื่นฟ้องให้โดยเป็นไปตามดุลยพินิจของศาลแล้วกันค่ะ
ซึ่งคู่กรณีพยายามจะทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยไม่มีสำนึกผิดเลย แล้วจะให้แยกย้ายกันไปเฉยๆ บอกให้น้องชายไปถอนร้องเรียนที่ขนส่งด้วย อย่างนี้ก็ได้หรอคะ ถ้าโลกนี้มีคนเอาเปรียบคนอื่น แล้วทุกคนนิ่งเฉย ไม่อยากเสียเวลา เขาก็ไปทำกับคนอื่นได้อีกค่ะ ขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆและกัลยาณมิตรและทุกๆท่านที่ห่วงใย กระจายข่าว ช่วยแชร์ ฯลฯ จนได้ทรัพย์สินคืนค่ะ ดีใจมากๆ #สังคมไทยยังน่าอยู่เพราะเราร่วมด้วยช่วยกันค่ะ #ขอบคุณพลังความดีและพลังโซเชี่ยลที่ทำให้ได้ของคืนค่ะ #ขอบพระคุณทุกท่านจากใจค่ะ "