1. อาชีพด้านงานขาย เช่น พนักงานขายหน้าร้าน, พนักงานขายออนไลน์, เจ้าหน้าที่ให้บริการด้านข้อมูลสินค้า,งานขายประกัน และ พนักงานขายทางโทรศัพท์
2. ขนส่งและคลังสินค้า เช่น เจ้าหน้าที่จัดเรียงคลังสินค้า, เจ้าหน้าที่จัดส่งสินค้า, เจ้าหน้าที่จัดการสต๊อก โดยอาชีพนี้เลือกเข้างานป็นกะได้ และความต้องการอาชีพนี้อยู่ทุกพื้นที่
3. อาชีพด้านไอที ซึ่งปัจจุบันมีความหลากหลาย เช่น โปรแกรมเมอร์ นักพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ Web Developer และผู้ดูแลระบบ
4. วิศวกร เป็นกลุ่มอาชีพที่มีความต้องการสูง รองรับการลงทุนของบริษัทต่างประเทศที่มาใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต การจัดการโรงงาน การดูแลมาตรฐานของโรงงาน รวมถึงการดูแลระบบเครื่องจักร เครื่องกล เพื่อให้การผลิตมีประสิทธิภาพสูง
5. ช่างเทคนิค เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ มีส่วนสำคัญในแรงงานการผลิต ทั้งโรงงาน ออฟฟิศ และหน่วยการผลิต มีความต้องการผู้ที่จบการศึกษาสายอาชีวะจำนวนมาก
7. เจ้าหน้าที่การเงิน ดูแลเรื่องการวางบิล ซื้อขาย ทวงหนี้ วางแผนการชำระหนี้ จัดการหนี้สินของบริษัท ยังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน
8. เจ้าหน้าที่ธุรการและงานจัดซื้อ ที่คอยดูแลเรื่องการประสานงาน งานเอกสารขององค์กร ยังมีความต้องการอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
9. อาชีพบริการลูกค้า/งานต้อนรับ แม้ว่าเทรนต์รุกิจจะเปลี่ยนไป แต่องค์กรก็ยังจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลกับลูกค้าหรือผู้บริโภค เกี่ยวกับบริการหลังการขาย รวมถึงงาน Call Center
10. อาชีพการตลาดและประชาสัมพันธ์ ผู้ช่วยคิดแผนโปรโมชัน ทำงานร่วมกับทีมขายและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อใช้ช่องทางโฆษณาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงกับความต้องการผู้บริโภค
แม้ 10 อาชีพข้างต้นจะมีความต้องการในตลาดแรงงานในปัจจุบัน แต่ในภาพรวมตัวเลขผู้ว่างงานและการเลิกจ้าง ยังอยู่ในอัตราที่น่ากังวล จากการสำรวจของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเดือน พ.ค. 63 พบว่ามีตัวเลขการจ้างานในประเทศไทย 11,391,965 คน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (พ.ศ.2562) 148,980 คน หรือเฉลี่ยการจ้างงานลดลง 1.29% ต่อปี