ร้องทบทวนออกแบบถนนเลียบแม่น้ำยม
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 ก.ค.ที่หอประชุมตรีเทพ สถาบันประชารัฐพิทักษ์ป่า ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ นายวรญาณ บุญณราช รอง ผวจ.แพร่ นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองนายสมหวัง บุญระยอง ผู้ตรวจกรมโยธาธิการฯ นายเสรี ทรงศักด์ รองนายก อบจ.แพร่ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชนร่วมการประชุมชี้แจงโครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองแพร่ ริมแม่น้ำยมอ.เมือง จ.แพร่มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 500 คน
นายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าฯแพร่ กล่าวว่า โครงการป้องกันการกัดเซาะและถนนเลียบน้ำยม เป็นโครงการที่ดำเนินการตั้งแต่ปี 2563-2565 เพื่อป้องกันการกัดเซาะริมตลิ่งและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยแม่น้ำยม คือ หนึ่งในแม่น้ำสายหลักของประเทศไทยและเป็นแม่น้ำที่สำคัญของจังหวัดแพร่ ยาว 280 กม. มีความลาดชันสูง ทำให้แนวตลิ่งแม่น้ำยมถูกกัดเซาะพังทลายอยู่ทุกปีสร้างความเสียหายให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ริมน้ำยม
ดังนั้นชาวบ้านจึงขอให้ทางจังหวัดแพร่ หาแนวทางแก้ไขและมีการระดมความคิดเห็น ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2562 จำนวน 100 คน และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2562 จำนวน 101 คน รวบรวมเสนอเป็นโครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองแพร่ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสียหายของพื้นที่ริมตลิ่งและสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ริมน้ำยมได้อย่างประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง การเชื่อมโยงระหว่างชุมชนริมแม่น้ำยมและพื้นที่เมืองเก่าแพร่ เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมริมแม่น้ำยม
นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า โครงการนี้มีประโยชน์เป็นอย่างมาก ถ้าโครงการเดินต่อไปไม่ได้ก็น่าเสียดาย เพราะเป็นโครงการที่ต้องใช้เวลา งบประมาณของโครงการทั้งหมด 300 ล้านบาท แบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกใช้งบประมาณจำนวน 110 ล้านบาท ตั้งแต่สะพานบ้านมหาโพธิ์ ถึงสวนรุกขชาติเชตวัน ระยะทาง 1.4 กม. จากระยะทาง 2.7 กม. ถ้าโครงการเดินได้ทางกรมโยธาฯจะเริ่มช่วงที่สองใช้งบประมาณอีก 200 ล้านบาท ในปี 2565 กรมโยธาฯ ทำรูปแบบโครงการเพื่อประกวดจัดซื้อจัดจ้าง โดยมีเงื่อนไขก่อนวันที่ 30 ก.ย.2563 ไม่อย่างนั้นโครงการนี้จะถูกพักไป
ทางด้านนายธีรวุฒิ กล่อมแล้ว ประธานภาคีเครือข่ายรักษ์เมืองแพร่ กล่าวว่า สนับสนุนโครงการดังกล่าว แต่ขอให้ทบทวนในการออกแบบ เพราะแม่น้ำยมมีความเชื่อมโยงกับเมืองเก่าแพร่ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติ