svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

ชาวจีนโดนหลอกขายวิลล่าหรูเกาะสมุย สูญพันล้าน

ทนายความหอบหลักฐานยื่นเข้ายื่นร้องต่อนายอำเภอเกาะสมุย หลังลูกความผู้เสียหายชาวจีนหลายราย ซื้อโครงการวิลล่าหรูบนเกาะสมุย ถูกเจ้าของโครงการชาวต่างชาติ หลอกขายโครงการมูลค่าควาเสียหายเกือบ1,000 ล้านบาท ด้านทนายความเผยเจ้าของโครงการ มีอิทธิพลทางการเงิน มีนายตำรวจใหญ่ระดับรอง ผบ.ตร. วิ่งเคลียร์คดี




นายชัยสิทธิ์ ลักษณะศิริศักดิ์ ทนายความที่ได้รับมอบหมายจากลูกความที่เป็นชาวต่างชาติ ได้หอบหลักฐาน ของลูกความชาวจีน จำนวนกว่า 10 ราย เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม กับนายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งหลักฐานที่ทาง นายชัยสิทธิ์ ลักษณะศิริศักดิ์ ทนายความที่ได้รับมอบหมายจากลูกความที่เป็นชาวต่างชาติ เป็นเอกสารพร้อมกล่าวว่าลูกความที่เป็นชาวจีน ได้ซื้อโครงการบ้านพักตากอากาศ วิลล่า และ ได้ทําสัญญากับบริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด ทะเบียนนิติ บุคคลเลขที่ 0845559007369 โดย นายวิลเลี่ยม ชาร์เลส คอนสแตนติน และนายจอห์น อลัน ดูพิซ กรรมการผู้มีอํานาจ บริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด ประกอบกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้บริการรับสร้างบ้าน และซื้อขาย ให้เช่าบ้านพร้อมที่ดิน โดยการเสนอขายโครงการบ้านพักตากอากาศที่ตั้งอยู่บนเกาะสมุยหลาย โครงการ ภายใต้ชื่อ "KASA" ซึ่งในแต่ละโครงการมีการเสนอขายผ่านเว็บไซต์ https://kasa- development.com โดยบริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด เป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างบ้านพักอาศัยประเภท พูลวิลล่า ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายโครงการตามที่เสนอขายโครงการให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไปทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยผู้เสียหายทั้ง 9 ราย ได้พบเห็นเว็บไซต์และเข้าทําสัญญาจะซื้อจะขายและสัญญาเช่ากับ บริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด ในโครงการชื่อ Dune Hills- Koh Samui, DUNE Residences- Koh Samui, The DUNE และ NAORI RESIDENCE ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดิน 5 แปลง โดยมีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ประเภทโฉนด ที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและก่อสร้างวิลล่าและสัญญาเช่า รายละเอียดการซื้อและเช่าโครงการของ ผู้เสียทั้ง 9 ราย มีดังนี้

ชาวจีนโดนหลอกขายวิลล่าหรูเกาะสมุย สูญพันล้าน


1) โครงการ DUNE Hills อยู่บนโฉนดที่ดินเลขที่ 17765 เลขที่ดิน 8 หน้าสํารวจ 2760 ตําบลบ่อผุด อําเภอ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2) โครงการ DUNE RESIDENCE อยู่บนโฉนดที่ดินเลขที่ 24782 เลขที่ดิน 10 หน้าสํารวจ 5491 ตําบลบ่อ ผุด อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3) โครงการ The DUNE อยู่บนโฉนดที่ดินเลขที่ 24250 เลขที่ดิน 6 หน้าสํารวจ 5227 ตําบลบ่อผุด อําเภอ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 4) โครงการ NAORI RESIDENCE อยู่บนหนังสือรับรองการทําประโยชน์ น.ส. 3 ก. โฉนดที่ดิน เลขที่ 8007 เล่ม 81 ก. หน้า 7 หน้าสํารวจ 390/492811-236 และ โฉนดที่ดิน เลขที่ 8008 เล่ม 81 ก. หน้า 8 หน้า สํารวจ 390/492811-236 ตําบลบ่อผุด อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ชาวจีนโดนหลอกขายวิลล่าหรูเกาะสมุย สูญพันล้าน



"แต่ เมื่อถึงหนดส่งมอบบ้านและที่ดินในเดือน ธันวาคม 2562 ปรากฏว่าบริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด ไม่สามารถปรับปรุงที่ดินและก่อสร้างวิลล่า รวมไปถึงการขึ้นโครงสร้างของสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้ได้ตาม กําหนดเวลาในสัญญาที่ได้ตกลงและโฆษณาไว้ในเว็บไซต์ได้แต่อย่างใด พบเพียงพื้นที่ดินว่างเปล่า มีการลง เสาเข็มและการวางโครงเหล็กแบบไม่แข็งแรงไว้เพียงร้อยละ ๕ ของพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด ไม่พบคนงานก่อสร้าง ไม่มีพฤติการณ์ใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าจะมีการก่อสร้างต่อ อีกทั้งการก่อสร้างโครงการก็ปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน กว่ากําหนด และผู้เสียหายได้ให้ข้าพเจ้าคัดโฉนดที่ดินอันเป็นที่ตั้งของโครงการ DUNE Hills อยู่บนโฉนดที่ดิน เลขที่ 17765 เลขที่ดิน 8 หน้าสํารวจ 2760 ตําบลบ่อผุด อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี, โครงการ DUNE RESIDENCE อยู่บนโฉนดที่ดินเลขที่ 24782 เลขที่ดิน 10 หน้าสํารวจ 5491 ตําบลบ่อผุด อําเภอ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และโครงการ The DUNE อยู่บนโฉนดที่ดินเลขที่ 24250 เลขที่ดิน 6 หน้า สํารวจ 5227 ตําบลบ่อผุด อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปรากฏว่าไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด และข้าพเจ้าไดพ้ บพฤติการณ์ของบริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด อันเป็นที่น่าสงสัยว่าประกอบ กิจการซึ่งอาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย มีดังนี้

ชาวจีนโดนหลอกขายวิลล่าหรูเกาะสมุย สูญพันล้าน




๑.บริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด เป็นผู้ประกอบการที่อาจหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร เนื่องจากในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและก่อสร้างวิลล่าที่บริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด ทําขึ้นเพื่อใช้เป็น ข้อตกลงในการรับชําระเงินค่าก่อสร้างบ้านพักกับผู้เสียหาย แสดงให้เห็นว่าบริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด ประกอบกิจการในลักษณะของการให้บริการ รับเหมาก่อสร้าง ต่อเติมสิ่งปลูกสร้างที่พักอาศัย และปลูกสร้าง บ้าน ซึ่งเป็นธุรกิจที่จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่กฎหมายกําหนดให้ผู้ประกอบการพัฒนาหรือ จําหน่ายอสังหาริมทรัพย์กําหนดให้ปฏิบัติ เมื่อมีรายได้จากการประกอบกิจการ เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77/2 จากการประกอบกิจการของบริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด สามารถบ่งชี้ เจตนาทุจริตโดยเห็นได้จากการที่ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบข้อมูลจากรายการฝาก ถอน และโอนเงินจากบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน เลขที่ 0093702231 ธนาคารกรุงเทพ สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชื่อบัญชี บจ. กาซ่า พีเอ็มซี พบว่า บริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด นั้น มีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี แต่บริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด ประกอบกิจการโดยไม่ยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต่อกรมสรรพากรพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ ตามที่กฎหมายกําหนดในประมวลรัษฎากรมาตรา 77/2 ประกอบมาตรา 85 ซึ่งข้าพเจ้าได้ตรวจสอบได้จาก ระบบค้นหาข้อมูลผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ตามเว็บไซต์ของ กรมสรรพากร ข้าพเจ้าเห็นว่าการประกอบกิจการของบริษัท กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 จนถึง ปัจจุบันเป็นการประกอบกิจการโดยไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงต้องรับผิดตามประมวลรัษฎากร ดังนี้
นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ได้ตรวจสอบ เอกสารหนังสือ จากทนายความ พร้อม กล่าวว่า จากที่ทางทนายมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากกรณีของการซื้อขายวิลล่าที่เกาะสมุย เบื้องต้นที่ได้รับข้อมูลจากผู้ร้อง จะให้ทางปลัดอำเภอตั้งทีมขึ้นมาเพื่อขอข้อมูลทั้งหมดก่อน ว่ามีประเด็นที่ร้องมา 3-4 ประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องไม่ขออนุญาติให้ถูกต้อง และเงื่อนไขไม่ได้โอนบ้านต้องตรวจสอบข้อมุลทั้งหมดทุกหน่วยงานเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย ต้องขอเวลาในการตรวจสอบและจะเรียนให้ผู้ร้องทราบว่าเราจะมีการดำเนินการอย่างไรซึ่ง ทางนายอำเภอเกาะสมุย ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมก็ต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมารับทราบข้อมูลหาข้อเท็จจริง และแต่งตั้งคณะกรรมการ มา 1 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วถึงจะดำเนินการเรียกผู้ถูกร้องมาเพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป ในเบื้องต้นมูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท มีเครือข่ายที่กรจายไปในพื้นที่อื่นด้วยอันนี้ก็ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ผู้มีอิทธิพลในพื้นทางผู้เสียหายก็กลัวเพราะมีมีมาข่มขู่ ถ้ามีมาให้โทรหานายอำเภอผมรับรองและจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลเพื่ออำนวยความสะดวกให้ไม่ต้องกังวล นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวขณะที่ นายชัยสิทธิ์ ลักษณะศิริศักดิ์ ทนายความที่ได้รับมอบหมายจากลูกความที่เป็นชาวต่างชาติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้นำหลักฐาน เข้ายื่นร้องต่อทางนายอำเภอเกาะสมุย ภายหลังจากที่ ได้มีลูกความที่เป็นชาวต่างชาติ เป็นคนจีน เป็นผู้เสียหายได้ซื้อบ้านและที่ดิน ในโครงการ กาซ่า พีเอ็มซี จํากัด ในตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยผู้เสียหายได้ซื้อโครงการดังกล่าว พร้อมทำสัญญา ซื้อขายกับทางโครงการที่เจ้าของเป็นนายทุนชาวต่างชาติ แต่เมื่อครบกำหนดที่ส่งมอบบ้านให้กับลูกค้า ในเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา แต่ทางโครงการ ไม่สามารถส่งมอบบ้านและที่ดิน ให้กับลูกค้าได้ และทางลูกค้า หรือผู้เสียหาย จึงได้มอบหมายให้ทางทนาย ตรวจสอบซึ่งจากการตรวจสอบเชิงลึกพบความผิดปกติ ของโครงการ อย่างเช่น เปิดบริษัท ขึ้นมาและทำโครงการก่อสร้างและจัดสรรที่ดินโดยไม่ได้ขออนุญาตจัดสรรที่ดิน และไม่พบการขออนุญาตต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งตามปกติ การที่จะทำโครงการจัดสรรที่ดินขายโครงการ ต่อผ่านการขออนุญาต ต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะเสนอขายให้กับลูกค้า ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นการหลอกลวงประชาชน ให้คนเข้าไปซื้อ และประเด็นที่สำคัญคือ บริษัทต่างชาติรายนี้ ได้โฆษนา ชวนเชื่อให้ชาวต่างชาติ เข้ามาซื้อโครงการ อ้างว่าถ้าซื้อไปแล้ว จะสามารถทำธุรกิจต่างๆและมีผลตอบแทนได้ จากทางโครงการได้หลายวิธี ทางโครงการจะช่วยในการ ทำกำไรกับโครงการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า แต่ทั้งหมดเป็นการหลอกลวงลูกค้าให้มาซื้อโครงการเท่านั้น และเมื่อทวงถามไปยังโครงการ ทางผู้บริหารบริษัทที่เป็นชาวต่างชาติเป็นผุ้บริหาร ก็เผกเฉยมาตลอด


ชาวจีนโดนหลอกขายวิลล่าหรูเกาะสมุย สูญพันล้าน



ทนายความยังกล่าวอีกว่า ล่าสุดได้เข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน ที่ สน.ลุมพินี กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เสียหายจำนวน 7-8 คน ในเบื้องต้นมีมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมลูกค้าที่รายอื่นที่เสียหายอีกจำนวนมาก ซึ่งหากรวมมูลค่าความเสียหายกับลูกค้ารายอื่นๆที่ซื้อโครงการนี้เช่นกันมีความเสียหายเกือบ 1,000 ล้านบาท เฉพาะที่อำเภอเกาะสมุย ยังไม่รวมโครงการที่บริษัทนี้หลอกลวงสร้างโครงการที่จังหวัดภูเก็ตอีกซึ่งที่ตนได้เดิทางมาร้องเรียนกับทางนายอำเภอเกาะสมุย ในครั้งนี้ เนื่องจาก ทางเจ้าของโครงการที่เป็นชาวต่างชาติ เป็นผู้มีอิทธิพล เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทีมทนายความ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้เสียหาย ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการที่เกาะสมุย ได้ถูกทางบริษัท ส่งคนเข้าไปข่มขู่คุกคาม และห้ามไม่ให้ทนายเข้ามายุ่งกับโครงการดังกล่าว หากไม่เชื่อให้ระวังตัวเอาไว้


และที่เป็นประเด็นสุดท้าย หลังจากที่ได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับทางเจ้าของบริษัท ที่ สน.ลุมพินี และทางพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ออกหมายจับ ปรากฎว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อ้างว่าเป็นนายเวร ของ รอง ผบ.ตร.ท่านหนึ่ง ได้วิ่งเต้นคดีให้กับเจ้าของบริษัท ที่เป็นชาวต่างชาติ โดยสั่งการให้อำนวยความสะดวกให้กับทางผู้ต้องหา เพื่อไม่ให้มีความผิด ทำให้ตนได้หอบหลักฐาน เดินทางลงพื้นที่มาร้องต่อทางนายอำเภอเกาะสมุย เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกความ