
จากกรณี "น้องเนย" เด็กหญิง ม.2 ไลฟ์สดขายของทั้งน้ำตา เนื่องจากขณะไลฟ์ มีคนมาคอมเม้นต์ต่อว่าน้อง ในเชิงเหยียดรูปลักษณ์ทางร่างกายของน้องเนย ที่ชาวโซเชียลมองว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการบูลลี่ กลั่นแกล้งกันทางออนไลน์
ขณะที่ชาวโซเชียลอีกจำนวนมาก ก็ตั้งข้อสงสัยว่า คนที่เข้ามาบูลลี่น้องเนยว่าไม่สวย เป็นคนตาไม่ถึง มองไม่เห็นความสวย เพราะจริงๆแล้ว น้องเนยเป็นคนสวยมาก ถ้าดูแลตัวเองดีๆ โตขึ้นน้องสามารถเข้าประกวดนางงาม และเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปขึ้นเวทีประกวดนางงามระดับอินเตอร์ต่อไปได้เลยทีเดียว
โดยเพจ บ้า - น - นางงามจักรวาล ได้โพสต์ข้อความถึงน้องเนย ระบุว่า
#สวยมากนะสำหรับเรา .... จากกรณีดราม่า "น้องเนย-เกณิกา ศิริ" อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสระแก้ว ไลฟ์สดขายสบู่ ก้อนละ 19 บาท เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวและเป็นทุนการศึกษา แต่กลับโดนนักเลงโซเชียล บลูลี่เรื่องหน้าตา ผิวพรรณ จนน้องร้องไห้ออกมากลางไลฟ์สดนั้น เป็นกระแสโด่งดังในขณะนี้นั้น
แอดมินเชื่อว่าสิ่งที่แฟนนางงามเห็นเหมือนกันคือ #น้องสวยมากนะ คือด้วยความที่เราดูการประกวดนางงามจักรวาล เราเห็นผู้หญิงหลายเชื้อชาติ ทั้งฝั่งเอเชีย ยุโรป เมกา แอฟริกา ลาติน เราเห็นความสวยที่หลากหลายได้กว้างกว่าคนทั่วไป ทั้งผิวขาว ผิวสี หัวดำ หัวทอง ตาดำ ตาฟ้า บราๆๆๆ ...แล้วกลับมาดูน้องเนย เฮ้ยยสำหรับเรานี่คือสวยมากนะ ใบหน้ารูปไข่ได้สัดส่วน เครื่องหน้าคมชัดมาก ตาโต ฟันเรียงซี่สวยงาม ตอนน้องพูดคือปากกว้างเห็นฟันคือดีย์มาก มองด้านหน้าว่าสวยแล้ว ถ้ามองด้านข้างคือปังมาก ตัดประเด็นเรื่องสีผิวออกได้เลย นี่มันยุคไหนแล้ว สีผิวนี่แหละที่ทำให้น้องเด่นแอดแนะนำให้ไปดูภาพเคลื่อนไหวที่น้องให้สัมภาษณ์ ยอมเรื่องความมั่นใจ ความฉะฉาน นี่คือประสบการณ์ที่เด่นชัดจากการขายของออนไลน์ แนะนำเลยนะ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เก็บประสบการณ์ สตอรี่น้องพร้อมรบมาก ไม่พอน้องยังทำสาธารณะประโยชน์ให้กับสังคม โดยการทำหน้าที่จิตอาสากู้ภัย ครูบอกว่าน้องมีความเป็นผู้นำ เลยได้เป็นหัวหน้าห้องด้วย น้องจ๊ะสวยพร้อมขนาดนี้ #ลงประกวดนางงามฟาดหน้าพวกบูลลี่เลยจ้า พร้อมเชียร์มาก
ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดี ที่ น.ส.นิตยา พื้นบาตร แม่ของน้องเนย ได้ขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดี เยาวชนหญิงคนหนึ่ง ที่เข้าไปบูลลี่น้องเนย ขณะที่ทำการไลฟ์สดขายสบู่ และครีม และได้มีการนัดคู่กรณี มาทำการตกลงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ (23 ก.ค.63)
โดยแม่น้องเนย ได้เผยว่า ได้รับการติดต่อจากคนที่อ้างว่า "เป็นผู้ปกครองของเยาวชนหญิงคนหนึ่ง ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา" จะเดินทางมาพบน้องเนย พร้อมกับครอบครัว ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้ว แต่ก็ยังไม่พบคู่กรณี ทำให้ทางร้อยเวร ตรวจสอบชื่อ และนามสกุลจริงของคู่กรณี รวมถึงการกล่าวหากันในเฟซบุ๊กจากนั้นจะทำการเชิญตัวคู่กรณีมาทำการพูดคุยกัน โดยร้อยเวรให้เวลาถึง 12 นาฬิกา หากไม่มา จะให้แม่ และน้องเนยกลับบ้านได้ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ ทำการเชิญตัวคู่กรณีมาสอบสวนเพิ่มเติม
โดยทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้ว ได้โทรศัพท์ไปหาคู่กรณีน้องเนย แต่ฝ่ายคู่กรณีแจ้งว่า ทางบิดาและน้องสาว "ติดภารกิจ"ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งไปว่า จะให้โอกาสอีกเพียงครั้งเดียว ให้มาพบคู่กรณี ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้ว ซึ่งฝ่ายคู่กรณีรับปากว่า จะรีบปรึกษากันในครอบครัว แล้วจะเดินทางมาพบ และขอโทษครอบครัวน้องเนย ต่อหน้าพนักงานสอบสวนให้เร็วที่สุด