svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิดเรื่องราว "ซีอุย แซ่อึ้ง" คดีสะเทือนขวัญ ถูกจดจำในฐานะ "มนุษย์กินคน"

กว่าหลายปีที่ผ่านมา "ซีอุย" หรือ "หลีอุย แซ่อึ้ง" ถูกหลายคนจดจำในฐานะ "มนุษย์กินคน" จากการผ่าศพควักเครื่องในที่เคยเป็นคดีฆาตกรสยองขวัญในช่วงปี 2497-2501




"ซีอุย" หรือชื่อจริง "หลีอุย แซ่อึ้ง" เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2470 ตำบลฮุนไหล จังหวัดซัวเถา ประเทศจีน ซีอุยเป็นลูกคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 4 คน ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ พวกเขาตระเวนตามที่ต่าง ๆ อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ในช่วงวัยเด็กซีอุยมักถูกเด็กด้วยกันทำร้ายและเอาเปรียบ

เปิดเรื่องราว "ซีอุย แซ่อึ้ง" คดีสะเทือนขวัญ ถูกจดจำในฐานะ "มนุษย์กินคน"

ปี พ.ศ. 2488 ซีอุย ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารรบในสงครามโลกครั้งที่สอง ในช่วงที่ประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่นทำสงครามกันอยู่ เขาถูกส่งไปรบในสมรภูมิพม่าแนวสนามรบตามรอยต่อตะเข็บแดนของจีน เป็นเวลาถึงหนึ่งปีเต็มที่ซีอุยต้องเผชิญกับความลำบากและเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายตลอด อาหารก็ขาดแคลน ขณะที่เพื่อนทหารก็ทะยอยตายไปเรื่อย ๆ จากการสู้รบ ซีอุยจึงได้ลิ้มรสชาติเนื้อมนุษย์เป็นครั้งแรกเมื่อสิ้นสุดสงคราม ซีอุยถูกปลดจากการเป็นทหาร ซีอุยถูกเพื่อน ๆ ชักชวนให้เข้ามาหางานทำในเมืองไทย โดยหลบหนีเข้าเมืองมาด้วยการเป็นกรรมกรรับจ้างในเรือขนส่งสินค้าชื่อ "โคคิด" เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2489 ด้วยการหลบซ่อนมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์เต็ม โดยขึ้นฝั่งที่ท่าเรือคลองเตย และหลบซ่อนตัวในโรงแรมห้องแถวเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ต่อมาได้เดินทางไปยังอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อไปหาญาติ ที่นั่น ซีอุยทำงานด้วยการรับจ้างทำสวนผักและรับจ้างทั่วไปเป็นเวลานานถึง 8 ปีเต็ม ก่อนที่ซีอุยจะก่ออาชญากรรม โดยที่ซีอุยมีนิสัยชอบเกาหัวและหาวอยู่เสมอ ๆ มีบุคลิกชอบเก็บตัว

เปิดเรื่องราว "ซีอุย แซ่อึ้ง" คดีสะเทือนขวัญ ถูกจดจำในฐานะ "มนุษย์กินคน"

ระยะ 8 ปีแรกที่พำนักในประเทศไทย ซีอุยไม่ได้ก่อคดีร้ายแรงใด ๆ นอกจากคดีทะเลาะวิวาทบ้างเป็นบางครั้ง แต่เงื่อนงำที่สำคัญก็คือ เส้นทางและแหล่งพักพิงของซีอุย ตรงสถานที่เกิดเหตุของคดีทั้ง 7 อย่างเหลือเชื่อเริ่มจากความเชื่อของ.ซีอุยว่าหากได้จับเด็กมาผ่าเอาตับมากิน จะเป็นยาอายุวัฒนะชั้นดี ทำให้เค้าเริ่มลงมือโดยได้ทำการฆาตกรรมเด็ก 3 รายแรก ที่ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่จะหลบหนีไปโดยรถไฟและก่อเหตุอีกที่งานฉลองตรุษจีนที่บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม เมื่อปี พ.ศ. 2500 สุดท้ายถูกจับได้หลังจากคดีฆาตกรรมในจังหวัดระยอง เมื่อปี พ.ศ. 2501 ขณะเตรียมจะทำลายศพเด็กชายอายุ 10 ขวบ!! ซึ่งเขาได้รับสารภาพว่า "เขาเคยฆ่าเด็กหญิง 6 คน เพื่อนำตับและหัวใจมากิน" และในบรรดาเหยื่อของซีอุย มีเพียงเหยื่อรายแรกและเป็นรายเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้ เป็นเด็กผู้หญิงอายุ 8 ขวบคณะแพทย์ได้ทำการตรวจสอบร่างกายของซีอุย ไม่พบความผิดปกติ ทั้งร่างกายและจิตใจ แต่พบว่า ซีอุยมีความเชื่อผิดๆ คิดว่าการกินตับเด็กและหัวใจเด็กจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งสุดท้ายเขาถูกจับขังคุกและประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า เพราะในระหว่างดำเนินคดี 9 วัน ซีอุยยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือ 7 คดี ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2502

เปิดเรื่องราว "ซีอุย แซ่อึ้ง" คดีสะเทือนขวัญ ถูกจดจำในฐานะ "มนุษย์กินคน"

ย้อนรอย ทางไอทีวี มีหลักฐานพยานและรูปคดีที่บ่งชี้ว่า ซีอุย ไม่ได้ฆ่าเด็กทุกคน มีเพียงเด็กคนสุดท้ายเท่านั้นที่เป็นหลักฐานมัดตัว ขณะตำรวจได้เข้าจับกุมหลังจากซีอุยลงมือฆ่า และอวัยวะในร่างกายของเหยื่อทุกรายก็ไม่ได้สูญหาย จึงเป็นที่สงสัยว่าเหตุใด ซีอุย จึงรับสารภาพว่าเป็นผู้ฆ่าเหยื่อทุกราย และนำอวัยวะมากิน ซึ่งก็ยังเป็นประเด็นของรูปคดีที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดในปัจจุบัน บ้างก็เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของไทยได้ให้สัญญากับซีอุยว่าให้ซีอุยรับสารภาพ แล้วจะจัดการให้ได้กลับเมืองจีน ด้วยความที่ไม่จัดเจนในภาษาทำให้ซีอุยรับสารภาพ และถูกประหารชีวิตในที่สุด

เปิดเรื่องราว "ซีอุย แซ่อึ้ง" คดีสะเทือนขวัญ ถูกจดจำในฐานะ "มนุษย์กินคน"

เรื่องราวของนาย "ซีอุย"

พ.ศ. 2470 : "ซีอุย" หรือชื่อจริง "หลีอุย แซ่อึ้ง" เกิดจังหวัดซัวเถา ประเทศจีน


พ.ศ. 2488 : "ซีอุย" ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารรบในสงครามโลกครั้งที่สอง


28 ธันวาคม พ.ศ. 2489 : ย้ายมาอยู่ประเทศไทย


8 เมษายนพ.ศ.2497 : ลงมือฆาตกรรมรายแรก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (รอดชีวิต)

10 พฤษภาคมพ.ศ.2497 :ฆาตกรรมรายที่ 2อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
20 มิถุนายนพ.ศ.2497:ฆาตกรรมรายที่ 3อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์27 ตุลาคมพ.ศ.2497:ฆาตกรรมรายที่ 4อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
28 พฤศจิกายนพ.ศ.2497:ฆาตกรรมรายที่ 5อำเภอดุสิต จังหวัดพระนคร5 กุมภาพันธ์พ.ศ.2500:ฆาตกรรมรายที่ 6อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

27 มกราคม 2501 :ฆาตกรรมรายที่ 7อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง

16 กันยายน พ.ศ. 2502 : ซีอุยยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือ 7 คดี


25 มีนาคม พ.ศ. 2501 : ศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิต


16 กันยายน พ.ศ. 2502 : ประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า


17 กันยายน พ.ศ. 2502 : ศาสตราจารย์นายแพทย์ หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์โรงพยาบาลศิริราช ขอรับศพซีอุยมาผ่าตรวจสมองเพื่อศึกษา ส่วนร่างถูกเก็บรักษาในลักษณะดอง และหลังจากนั้นคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้รับมอบร่างนายซีอุยมาจัดแสดงโดยเขียนข้อความว่า "นายซีอุย แซ่อึ้ง (มนุษย์กินคน)"

31 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 : มีกระแสเรียกร้องทางอินเทอร์เน็ตให้มีการนำศพซีอุยออกจากโรงพยาบาลศิริราช เพราะเห็นว่าซีอุยไม่ใช่ฆาตกรตัวจริงของเหยื่อทั้งหมด จึงเรียกร้องให้โรงพยาบาลศิริราชปลดป้าย"มนุษย์กินคน"ออก


2 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 : โรงพยาบาลศิริราชได้ประกาศตามหาญาติซีอุยเพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดการร่างของซีอุย หากวันที่ 7 สิงหาคมยังไม่มีญาติมาแสดงตัว ทางโรงพยาบาลจะมีสิทธิอันชอบธรรมในการจัดการศพต่อไป


7 สิงหาคม พ.ศ. 2562 : ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้แจ้งการดำเนินการเกี่ยวกับร่างนายลีอุย แซ่อึ้ง (ซีอุย) ว่า ได้ประกาศติดตามหาญาติของนายลีอุย แซ่อึ้ง (ซีอุย) ที่มีหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับนายลีอุย แซ่อึ้ง (ซีอุย) มีผู้แสดงตนว่าเป็นญาติ แต่ไม่สามารถแสดงหลักฐานได้ว่าเป็นญาติอย่างแท้จริง



17 ก.ค. พ.ศ. 2563 : ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ออกหนังสือเเจ้งด่วนที่สุดถึงนายพล พลายสถิตย์ เพื่อส่งกำหนดการฌาปนกิจศพ "นายซีอุย แซ่อึ้ง" โดยมีข้อความว่า ตามที่ท่านได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในกรณีที่คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล นำร่างของ นายลีอุย หรือซีอุย แซ่อึ้ง ผู้ได้รับโทษประหารชีวิตไปจัดเเสดงในพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน ตั้งแต่ปี 2502 ซึ่งอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้ยกเลิกการจัดแสดงร่างของนายลีอุย หรือซีอุย แซ่อึ้ง



23 ก.ค. พ.ศ. 2563 : มีพิธีฌาปนกิจศพนายลีอุย หรือซีอุย แซ่อึ้ง โดยมีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีฌาปนกิจ นับเป็นการปิดฉากคดี 60 ปี "ซีอุย" ล้างมลทินมนุษย์กินคน



เปิดเรื่องราว "ซีอุย แซ่อึ้ง" คดีสะเทือนขวัญ ถูกจดจำในฐานะ "มนุษย์กินคน"

เปิดเรื่องราว "ซีอุย แซ่อึ้ง" คดีสะเทือนขวัญ ถูกจดจำในฐานะ "มนุษย์กินคน"