svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ย้อนรอยเหตุนักโทษทมิฬแหกคุก

ย้อนดูเหตุการณ์แหกคุกของผู้ต้องขังในบ้านเรา ก็มีเหตุการณ์ที่กลายเป็นข่าวดังมาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งผู้ต้องขังส่วนใหญ่มักอาศัยจังหวะในช่วงชุลมุน หรือขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่ทันระวังตัวก่อเหตุขึ้น

เหตุการณ์แรก ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2541 / เป็นเหตุการณ์ที่นักโทษชาย 6 คน ในเรือนจำกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ที่กำลังนั่งฝึกงานช่างฝีมือได้นำเอาอุปกรณ์การช่าง อย่าง สิ่ว ขวาน และมีดปลายแหลม ที่ใช้สำหรับฝึกงานฝีมือตรงเข้าล็อกคอผู้บัญชาการเรือนจำอย่างรวดเร็วพร้อมใช้มีดแทงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส


ย้อนรอยเหตุนักโทษทมิฬแหกคุก


ถัดมา 2 ปี ในเดือนพฤศจิกายน2543 เกิดเหตุอีกครั้งที่เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อนักโทษชาวเมียนมา 9 ราย พร้อมอาวุธปืน 5 กระบอก และระเบิดอีกจำนวนหนึ่ง ได้เข้าจับตัวนายสมวงศ์ศิริเวช ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร และถูกทำร้ายร่างกายโดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้พยายามเข้าไปช่วย แต่กลับถูกยิงจนเสียชีวิต


ก่อนที่หัวหน้าแก๊งนักโทษชาวเมียนมาที่ชื่อว่า "หม่องวินสัน" จะประกาศว่า ต้องการแหกคุกกลับประเทศ พร้อมร้องขอรถและให้เปิดประตูเรือนจำ เพื่อจะหลบหนีไปชายแดนไทย-พม่าด้านอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

เหตุต่อมาเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2556 /ผู้ต้องขังคดียาเสพติดของเรือนจำกลางสุรินทร์ จำนวน 9 รายได้อาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่เรือนจำ นำตัวไปเข้ารับการตรวจพิสูจน์สารเสพติดก่อนจะหลบหนีออกจากสถานที่ควบคุม


ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2559 ที่เรือนจำแม่สอด นักโทษชายได้พยายามแหกคุกโดยใช้ค้อนห่อด้วยผ้าคลุมทุบหัวเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณป้อมด้านตะวันออกของเรือนจำจนเสียชีวิต ซึ่งหลังจากทุบหัวผู้คุมแล้ว ก็พยายามปีนกำแพงหนี แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด


และเมื่อปลายปีที่แล้ว เกิดเหตุ 3 ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืน และมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บก่อนจะใช้ปืนยิงเบิกทาง หลบหนีออกมาจากศาลจังหวัดพัทยาจังหวัดชลบุรี และขับรถกระบะที่จอดทิ้งไว้ด้านหน้าศาลหลบหนีออกไป


ย้อนรอยเหตุนักโทษทมิฬแหกคุก


ล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ เกิดเหตุจราจลภายในเรือนจำสว่างแดนดิน อำเภอสว่างแดนดินจังหวัดสกลนคร ผู้ต้องขังคดียาเสพติด 5ราย ได้หลบหนีออกจากเรือนจำช่วงกลางดึก ซึ่งนักโทษทั้ง 5 ราย ถูกนำตัวมากักตัวไว้สถานที่กักตัวป้องการแพร่ระบาดโรคโควิด-19ก่อนจะทำการเจาะฝ้าเพดาน เพื่อปีนออกไปจากห้องกักตัวมาด้านนอก หลังจากนั้นได้นำผ้าเต็นท์พาดกับลวดหนามด้านบนกำแพงรั้วของเรือนจำ เพื่อปีนข้ามกำแพงคุกออกไปแต่สุดท้ายก็ถูกตามจับได้ครบทุกคน



แต่ในอดีตเคยมีการวางแผนแหกคุกที่เรียกได้ว่า เป็นคดีตำนานเลยก็ว่าได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในคุก"อัลคาทราซ"ซึ่งเป็นเรือนจำที่อยู่บนเกาะกลางอ่าวซานฟรานซิสโก มหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีน้ำทะเลที่เย็นยะเยือกรายล้อม มีระบบรักษาความปลอดภัยดีที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาในตอนนั้น


แต่นักโทษชาย 3 คน คือ แฟรงค์ มอร์ริส และ2พี่น้อง จอห์น - คลาเรนซ์ แองกลิน กลับแหกคุกได้สำเร็จ หลังจากที่เคยพยายามทำมาแล้ว14ครั้ง โดยใช้วิธีหลบหนีผ่านผนังคอนกรีตที่อยู่ขอบๆช่องลมใต้อ่างล้างหน้า โดยใช้ช้อนและสว่านที่ทำจากมอเตอร์เครื่องดูดฝุ่น เป็นตัวเจาะผนัง ก่อนจะใช้หินเจียรที่ขโมยมาจากห้องช่าง นำมาฝนให้หมุดโลหะที่ยึดตะแกรงเหล็กกั้นช่องลมนั้นหลุดออก แล้วออกทะเลด้วยเรือแพที่ทำจากเสื้อกันฝนกว่า50ตัว พร้อมตบตาเจ้าหน้าที่ด้วยการทำหุ่นปลอมรูปคนขนาดเท่าคนจริง / ติดผมจริงไว้ในห้องขัง เพื่อไม่ให้ผู้คุมสงสัยเวลาหลบหนีจริงด้วย ก่อนที่พวกเขาจะหลบหนีได้สำเร็จ