svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

สาวลวงโลกโดดตึกที่เชียงใหม่ ญาติเผยประวัติสุดเอือมระอา

พฤติกรรมลักทั้งของในบ้าน ลักข้าวเปลือกในยุ้งข้าว ลักจูงวัวไปขาย ทั้งจะเผาบ้าน และขู่ฆ่าเวลาขอเงินไม่ได้ ส่วนลูกสาววอนแม่กลับตัวเป็นคนดี หากไม่กลับบ้านก็ให้มารับไปอยู่ด้วย จะช่วยให้แม่กลับตัวเป็นคนดี เพื่อนบ้านวอนเจ้าหน้าเข้ามาดูแล อย่าเพิกเฉยกับการแก้ไขปัญหา ก่อนเกิดการฆ่ากันตาย ส่วนอดีต ผอ.เผย ตอนเรียนฉลาดเรียนเก่ง มีปัญหาครอบครัวแตกแยกเป็นต้นเหตุที่น่าเห็นใจ และช่วยเหลือแก้ปัญหาให้ตลอดช่วงเรียน วอนพัฒนาสังคมฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเยียวยาดูแล

สาวโป๊ะแตกหลอกคนไปทั่ว ยายเปิดโปงหลานสาวแกล้งจะทำร้ายตนเองด้วยการจะกระโดดตึกตายทั้งๆที่ก่อนหน้าไม่กี่วันก็แกล้งเดินตามถนนใน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอนแล้วหลอกคนว่าไปทำงานอยู่ที่ อ.ปางมะผ้า แล้วนายจ้างปล่อยลอยแพไม่มีเงินจะกลับบ้านจนหน่วยงานราชการเข้าให้การช่วยเหลือ ให้เงินค่ารถค่าเดินทางกลับบ้าน แต่ก็ยังไปเล่นละครตบตาคนอีกคราวนี้โป๊ะแตกมีคนจำได้ สอบประวัติย้อนหลัง เคยทำพฤติกรรมจะทำร้ายตัวเองเช่นนี้หลายครั้งสุดท้ายยายบอกคนลวงโลกไม่ต้องกลับมาบ้าน ให้ตำรวจจับขังคุกไม่ต้องออกมาเพราะถ้ากลับมาบ้าน ก็ขโมยสิ่งของในบ้านไปขาย ทั้งข้าว ทั้งทรัพย์สินอื่นแย่ไปกว่านั้นยังจูงวัวที่บ้านไปขายด้วยซ้ำ หนักเข้าจะเผาบ้านอีกด้วย

 


เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2563  ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านหนองตอกแป้น หมู่ 11 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ดเพื่อติดตามข่าวกรณีที่นางสาวอรสา ไพรพฤกษ์ อายุ 27 ปี ซึ่งไปก่อเหตุจะกระโดดตึกตายที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้จ.เชียงใหม่ โดยอ้างว่ามีปัญหาในครอบครัวกับสามี เพื่อขอความช่วยเหลือจากประชาชน แต่ปรากฏว่าหลังเกิดเหตุมีการโพสต์โซเชียลออกมาประจานว่านางสาวอรสา มีพฤติกรรมลวงโลก โดยมีการสร้างสถานการณ์จะฆ่าตัวตายมาแล้วในหลายจังหวัดเพื่อให้คนเกิดความสงสาร แล้วขอรับเงินบริจาคเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้าน

 


จากการเข้าพบนายดี ปัจจุโส และนางเลี้ยงปัจจุโส อายุเกือบ 86 ปี ตายายของนางสาวอรสาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและพื้นฐานของผู้ก่อเหตุ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าลวงโลกโดยตาและยายเล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นหลานสาวที่เกิดจากลูกสาวของตนเองโดยแม่ทำงานรับจ้างแรงงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนพ่อแยกทางกัน ตั้งแต่ นางสาวอรสายังเด็กซึ่งตนเลี้ยงดูมาโดยตลอด กับพี่ชายของนางสาวอรสาอีก 1 คน หลังจากพ่อแม่แยกทางกันและแม่ก็เดินทางลงไปทำงานกรุงเทพฯต่อ ปล่อยให้ตนเองทั้งคู่ดูแลส่งเสียนางสาวอรสาโดยแม่ส่งเงินมาให้เป็นค่าใช้จ่าย ตลอด เดือนละกว่า 10,000 บาท รวมทั้งสร้างบ้านให้อยู่  แต่ปรากฏว่านางสาวอรสา ไม่ใส่ใจการเรียนแถมมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยในขณะเรียนหนังสือ จนกระทั่งจบประถม 6 ก็ไม่ยอมเรียนต่อแล้วหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น จนมีครอบครัวตอนอายุ 14  ปี และคลอดลูกสาวแล้วก็แยกทางกับสามี เอาลูกมาให้ตนเลี้ยง 



จากนั้นก็หนีไปอยู่ต่างจังหวัดหลายจังหวัด และไปๆมาๆ แต่พอกลับบ้านมาทุกครั้งจะมาขอเงินถ้าไม่ให้ก็คุกคาม ข่มขู่ หาเรื่องกับทุกคนเคยแม้แต่จะใช้มีดฟันและขู่ฆ่าตากับยาย บ่อยครั้งที่ไม่ได้เงินก็ลักของทุกอย่างในบ้านไปขายถ้าปิดห้องไว้ก็ทุบลูกบิดจนแตกหักเข้าไปลักขโมยของจนตนต้องทำประตูห้องใหม่โดยใช้สายยูคล้องกุญแจหลายตัว เพื่อให้ยากต่อการทุบทำลายเข้าไปลักทรัพย์แต่เมื่อขอเงินไม่ได้ ก็ทำลายพังประตูเข้าไปเอาของมีค่าไปขายจนแทบไม่มีอะไรเหลือ



สาวลวงโลกโดดตึกที่เชียงใหม่ ญาติเผยประวัติสุดเอือมระอา



สาวลวงโลกโดดตึกที่เชียงใหม่ ญาติเผยประวัติสุดเอือมระอา

ยายเล่าต่อว่า พฤติกรรมนี้เป็นมาตั้งแต่เด็กนักเรียนแล้ว ที่ลักแม้แต่จักรยานของเพื่อนไปขาย แต่ไม่มีการเอาเรื่องกัน จนติดเป็นนิสัยทำตัวเหมือนคนเสียสติ และคล้ายคนติดยา ชอบอาละวาดข่มขู่ขอเงินคนในบ้าน พอไม่ได้ก็ลักทุกอย่างไปขาย เห็นสิ่งของมีค่าในบ้านไม่ได้จะเอาทุกอย่างไปขาย ที่ผ่านมาเลยลักจักรยานในบ้านไปขายถึง 6 ครั้ง ขายแล้วก็หนีไปจากบ้าน พอเงินหมดก็กลับมาขอเงิน 



เคยลักแม้กระทั่งข้าวเปลือกในยุ้งข้าวไปขาย พอเงินหมดก็กลับมา พอกลับมาตายายก็กลัวว่าจะมาลักของในบ้านไปขาย แม้จะเก็บของไว้ในห้องใส่กุญแจห้อง 2 ดอก ก็ยังงัดเอาทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านไปขาย ได้เงินมาก็นำไปซื้อยามาเสพ และเคยแม้กระทั่งลักวัวที่กำลังตั้งท้อง ที่ตายายล่ามไว้ในทุ่งนาจูงไปขายให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านข้างเคียง ในราคา 18,000 บาท แล้วหลบหนีซึ่งตายายตามไปทันเอาวัวคืนมาได้ และคนที่ซื้อวัวก็ตามไปทันที่สถานีขนส่งได้เงินคืนมาเพียง 17,000 บาท 



จากนั้นก็หายไปนาน แต่กลับมาบ้านทีไรก็มาสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวตลอด พบมีประวัติ โกหก ต้มตุ๋น หลอกลวง ทั้งคนไทยและต่างชาติ จนถูกจับติดคุกมาแล้ว 3 ครั้ง ในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคเหนือ แม้แต่ฝรั่งก็ยังโดนหลอกเอาเงินและขังฝรั่งไว้ในบ้าน แล้วหนีไม่พ้นจนถูกจับดำเนินคดีแต่พออออกมา ก็ยังมีนิสัยเดิมๆ จนทุกคนเอือมระอาไม่อยากให้กลับบ้าน

 


ล่าสุดก็เห็นข่าวว่า ไปหลอกลวงคนที่เชียงใหม่ ทำทีว่ามีปัญหาชีวิตจะฆ่าตัวตาย ให้คนสงสารเพื่อขอเงิน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นตนจึงอยากขอเตือนทุกคนว่าอย่าหลงเชื่อ และอยากให้ตำรวจจับและขังตลอดชีวิต จะได้ไม่ไปทำให้คนเดือดร้อน และที่สำคัญไม่อยากให้ตำรวจปล่อยตัว เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมและคนในครอบครัวอีก ทุกอย่างในบ้านแทบจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว เคยแม้กระทั่งขู่จะจุดไฟเผาบ้านเมื่อขอเงินไม่ได้ ตนยืนยันว่าหลานไม่ใช่คนเสียสติไม่ได้เป็นบ้า เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ



สาวลวงโลกโดดตึกที่เชียงใหม่ ญาติเผยประวัติสุดเอือมระอา

 


สาวลวงโลกโดดตึกที่เชียงใหม่ ญาติเผยประวัติสุดเอือมระอา



สาวลวงโลกโดดตึกที่เชียงใหม่ ญาติเผยประวัติสุดเอือมระอา


ในขณะที่เด็กหญิงมาย (นามสมมุติ ลูกสาว นางสาวอรสา) ซึ่งอยู่บ้านกับย่า กล่าวว่า เห็นข่าวแม่แล้วเสียใจที่แม่ทำเช่นนั้น แต่ก็รักและคิดถึงแม่ อยากให้แม่กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี อย่าเที่ยวไปหลอกลวงใครต่อใครอีก แล้วกลับมาบ้าน แล้วจะขอให้ย่าให้อภัยและยกโทษให้ แม้จะไม่มีพ่อก็ตาม และหากว่าย่าไม่ยอมให้อภัยและไม่ให้แม่อยู่ด้วย ก็ขอวิงวอนผ่านสื่อไปว่า ให้มารับตนไปอยู่ด้วย เพื่อที่จะคอยเตือนให้แม่เป็นคนดีเพื่อลูก โดยไม่ให้ไปลักทรัพย์สิ่งของ หรือหลอกลวงใครอีก เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันฉันท์แม่-ลูก อย่างมีความสุข แม้จะไม่มีพ่อก็ตาม


 

ด้านนางเรียน เทียมสิงห์ เพื่อนบ้านของนางเลี้ยง ปัจจุโส กล่าวว่า  รู้สึกเห็นใจครอบครัว และตา-ยาย ที่ทราบว่าถูกหลานข่มขู่ ขอเงิน ลักของในบ้าน ทุกอย่างไปขาย หากไม่ได้ก็ทำลายข้าวของ และไม่มีทางออก หากขอเงินไม่ได้บางทีก็จะเผาบ้าน และหายไปจากบ้านบ่อยๆ ทางทีก็ไปนานมาก พอไปก็มีข่าวว่าในทางลบตลอด ทั้งข่าวลักของ หลอกลวงคน พอก่อเหตุแล้วก็หนีกลับมาบ้าน พอเงินหมดก็ข่มขู่ขอเงิน ซึ่งตนก็เตือนเสมอว่าหากขอเงินก็ให้ไป เพราะทราบว่าแม่ของอรสาที่อยู่กรุงเทพฯ ส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือนละกว่า 10,000 บาท ตนก็บอกว่าแบ่งๆให้ไปบ้าง เพื่อไม่ให้ทำลายข้าวของและเพื่อความปลอดภัย ซึ่งนางเลี้ยง ปัจจุโส ก็ทำตามทีบอกแต่ก็ยังมีปัญหาตลอด ซึ่งตนก็ไม่ทราบจะทำอย่างไร เพราะเมื่อนางอรสากลับมาทุกครั้งก็มีปัญหาทุกครั้ง มีทางออกอย่างเดียว คือให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องส่วนไหนก็ได้ให้เข้ามาดูแก้ปัญหาให้ ก่อนที่จะมีเรื่องร้ายๆจนถึงขนาดฆ่ากันตายเกิดขึ้น

 


ด้านนายสุพจน์ หินกอง อดีต ผอ.โรงเรียนที่นางสาวอรสา เคยเรียนอยู่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว กล่าวว่า ตามประวัติแล้วนางสาวอรสาตอนเรียนอยู่ในโรงเรียน ก็เป็นเด็กฉลาด เรียนดี แต่บางทีก็มีนิสัยลักษณะคล้ายเด็กพร่ำเพ้อขาดขาดเกินเกิน และบ่อยครั้งที่สร้างปัญหา โดยเฉพาะเวลาปิดเทอมจะหนีออกจากบ้าน ก็นำเรื่องไปปรึกษาผู้ปกครองคือตากับยายอยู่ตลอด และพยายามช่วยเหลือมาโดยตลอด ต่างจังหวัดก็เคยไปช่วยนำกลับมาบ้านแล้ว และช่วยหาทางออก เนื่องจากพบว่าเป็นเด็กที่มีปัญหาทางด้านครอบครัวขาดความอบอุ่น เพราะพ่อ-แม่แยกทางกัน จนเด็กจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้ว บอกว่าจะไปเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษา 



จากการติดตามจึงทราบว่าไม่ไปเรียนแต่ไปมีครอบครัวจนมีลูก แล้วไปก่อเหตุหลายแห่ง เช่น สงขลา, หาดใหญ่, แม่ฮ่องสอน และอีกหลายจังหวัดก็ไปสร้างปัญหา เท่าที่ทราบและเห็นเป็นข่าวเช่น ที่โคราช ฉะเชิงเทราและที่ชลบุรีบ้าง ล่าสุดก็ที่ จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.เชียงใหม่ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ได้แต่เห็นใจและอยากให้ส่วนราชการช่วยแก้ปัญหานี้ ซึ่งน่าจะมีทางออกที่ดีที่สุด

สาวลวงโลกโดดตึกที่เชียงใหม่ ญาติเผยประวัติสุดเอือมระอา

สาวลวงโลกโดดตึกที่เชียงใหม่ ญาติเผยประวัติสุดเอือมระอา