
จากตำนานคำบอกเล่าระบุ เมื่อ500กว่าปีก่อนบนยอดเขาแห่งนี้เคยเป็นวัดและเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คอยเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับชาวบ้านในสมัยโบราณและถูกปล่อยให้ร้างมาหลายร้อยปี จึงร่วมกันบุกเบิกและช่วยกันบูรณะและฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาเป็นวัดอีกครั้งพร้อมกับพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเตรียมยกสถานะให้เป็นโบราณสถานแห่งใหม่ของจ.สงขลา
โดยเฉพาะ หลังจากที่รัฐบาล ประกาศเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้มีนักพุทธศาสนิกชนจากต่างอำเภอและต่างท้องที่ เดินทางขึ้นมาเที่ยวบนยอดเขาวงศ์อย่างไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่จะมาเป็นหมู่คณะ และครอบครัวทั้งเด็กๆผู้ใหญ่และผู้สูง
ผู้สื่อข่าวได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกับนักท่องเที่ยว โดยมีชาวบ้านในพื้นที่คอยบริการนำทางซึ่งการเดินทางขึ้นไปบน "เขาวงศ์" ต้องใช้วิธีเดินเท้าจากตีนเขาขึ้นไป ระยะทาง 1กิโลเมตรตามเส้นทางที่ชาวบ้านได้ร่วมกันจัดสร้าง พร้อมผูกเชือกโยงให้จับเพื่อช่วยผยุงตัว ผ่อนแรงและมีการตั้งจุดพักเป็นระยะๆซึ่งระหว่างทางที่เดินขึ้นภูเขาจะได้สัมผัสธรรมชาติ ป่าที่สมบูรณ์มีต้นไม้ป่าขนานใหญ่และขนานเล็กพร้อมกับชื่นชมกับความเก่าแก่ของสถานที่ ด้วยสภาพของรากไม้ที่ปกคลุม ห่อก้อนหินขนาดใหญ่ ที่แสดงให้เห็นถึงสภาพป่าที่ไร้การรบกวนจากมนุษย์มาเป็นเวลาช้านาน ที่ปัจจุบันจะไม่ค่อยมีให้เห็นนัก
แต่ที่นี้มีอยู่ให้เห็นเต็ม 2 ข้างทางโดยเฉพาะต้นไม้พลอง ไม้ป่าที่หายากที่เติบโตอยู่รายล้อมรอบ"เขาวงศ์"ถือว่าเป็นป่าไม้พลองที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
นอกจากนี้ บริเวณพื้นที่โดยรอบพระเจดีย์ ถูกจัดให้เป็นจุดชมวิวบนโขดหิน สามารถมองเห็นทิวทัศน์พื้นราบ380องศาซึ่งฝั่งตะวันออก ด้านอ.จะนะ จะมองเห็นทะเลอ่าวไทยชัดเจนส่วนฝั่งตรงข้ามทิศตก ด้านอ.เมืองหาดใหญ จะมองเห็นภาพตึกในเมืองหาดใหญ่ส่วนทิศเหนือจะมองเห็นทะเลสาบและบ้านพักอาศัยในเมืองสงขลา ขณะที่ทิศใต้จะเห็นภาพธรรมชาติภูเขาที่สวยงามมองไกลไปถึงอ.นาหม่อม
ปัจจุบันพระเจดีย์"เขาวงศ์"ถูกขึ้นทะเบียนเป็นเขตโบราณสถาน โดยรระหว่างนี้ทางกรมศิลปกรได้นำตัวอย่าง เศษอิฐ ไปตรวจสอบเพื่อหารายละเอียดและประวัติการก่อสร้างอย่างแน่ชัดว่าสร้างขึ้นสมัยใดเพื่อนำไปสู่การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีจุดขาย ทางประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม และการผญจรภัยทางธรรมชาติ อีกแห่งของจ.สงขลา ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นมาเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย