
เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และเรือนจำสว่างแดนดินสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ้านม่วง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองบ้านม่วง ลงพื้นที่ตำบลบ่อแก้ว อ.บ้านม่วง จ.สกลนครพื้นที่ที่คาดว่า นายอนนท์ จะใช้กบดานหลบซ่อนตัว แต่ยังไม่พบร่องรอยแต่อย่างใดซึ่งจากการสืบทราบ พบว่า นายอนนท์ ไม่ค่อยอยู่เป็นหลักแหล่ง เคยมีภรรยามาแล้ว 2 คนแต่หย่าร้างไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว และในบ้านบ่อแก้ว นายอนนท์ ก็ชอบที่จะใช้เก็บตัวอยู่ในสวนอยู่ท้ายหมู่บ้าน และประวัติเคยต้องโทษจำคุกมาแล้ว 3ครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้อง ใช้ความระมัดระวังในการติดตามจับกุมตัว ขณะที่ผู้ต้องขัง 3 คน คือนายวัฒนชัย พันภักดีหรือ อาทิตย์ นายสุริยันต์ สุพรรณประเสริฐหรือ ต้น และนายพัฒน์พงษ์ เกตุคำใส หรือ ตั้มที่จับกุมได้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่สภ.คำตากล้า และ สภ.สว่างแดนดิน เพื่อนำตัวส่งเข้าเรือนจำสว่างแดนดิน
ส่วนที่บ้านบ่อแก้ว ต.บ่อแก้ว อ.บ้านม่วงจ.สกลนคร พบกับนายบุญภพ หลักคำ อายุ 49 ปี พี่ชายของนายอนนท์ กล่าวว่าตั้งแต่เกิดเหตุผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำ ทราบว่า หนึ่งในนั้นมีนายอนนท์น้องชายตนเองรวมอยู่ด้วย ก็รู้สึกตกใจแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากน้องชายในการขอความช่วยเหลือด้านการหลบหนีเพราะปกติน้องชาย ก็ไม่ค่อยจะสุงสิงกับญาติพี่น้องเท่าไรและไม่ค่อยรู้ความเคลื่อนไหว ว่า น้องชายไปไหนทำอะไร นานๆจะกลับมาอยู่บ้านโดยจะชอบไปอยู่ที่สวนมากกว่าอยู่ในหมู่บ้าน และหากน้องชายสามารถรับรู้ได้ก็อยากให้น้องชายได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้โทษหนักให้เป็นเบาและไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการเด็ดขาดในการจับกุม