svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนพ.ค. ผู้ถือบัตร รับเงิน 7 เด้ง!

สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนพฤษภาคม 2563 ผู้ถือจะมีสิทธิ์ทั้งหมด 7 รายได้ ซึ่งจะเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภามคม 2563, 15 พฤษภามคม 2563 และ 18 พฤษภาคม 2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.วงเงินชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภค โดยต้องซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ และเป็นไปตามเกณฑ์ คือ ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินช่วยเหลือตรงนี้ 300 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท  จะได้รับเงิน 200 บาทต่อเดือน
2.ค่าใช้จ่ายการเดินทางโดยรถสาธารณะ 500 ต่อเดือน ครอบคลุมทั้ง รถเมล์ รถไฟฟ้า รถ บขส. และรถไฟ
3.ก๊าซหุงต้ม โดยรัฐบาลแจกให้คนละ 45 บาทต่อ 3 เดือน แต่หากไม่ใช้สิทธิภายใน 3 เดือน ก็จะถูกตัดยอดเงินตรงนี้ไป
4.คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 5% หากผู้ถือบัตรเติมเงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและนำไปใช้จ่าย ก็จะได้รับเงินภาษีแวตคืนตามเข้าบัตรตามยอดการใช้จ่าย โดยจะเป็นการจ่ายเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) สามารถรูดออกมาเป็นเงินสด หรือใช้จ่ายผ่านบัตรกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ แต่เงินจำนวนนี้จะสามารถใช้ได้ในเดือนถัดไป 
ยกตัวอย่างเช่น จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการไป 100 บาท จะได้เงินคืนจากแวต 5% เข้าบัตรในเดือนถัดไป 5 บาท, หากจ่ายผ่านบัตร 500 บาท จะได้เงินคืนจากแวตนี้เข้าบัตรในเดือนถัดไป 25 บาท, หรือหากจ่ายผ่านบัตร 1,000 บาท จะได้เงินคืนจากแวตนี้เข้าบัตรในเดือนถัดไป 50 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้โดยอัตราภาษีแวตปกติ 7% นั้น แยกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1% เป็นส่วนที่ผู้ถือบัตรต้องจ่ายอยู่แล้วเมื่อนำบัตรไปใช้จ่าย จากเดิมที่ต้องจ่ายเต็ม 7% ส่วนอีก 5% เป็นเงินที่ผู้ถือบัตรคนจนจะได้รับการคืนเงินในเดือนถัดไปผ่าน e-Money สำหรับ 1% สุดท้าย จะถูกนำเข้าไปในกองทุนการออมแห่งชาติของผู้ถือบัตรคนจนนั่นเอง
5.เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้ โดยจะแบ่งตามรายได้ของผู้สูงอายุ แบ่งเป็น ผู้สูงอายุที่มีรายได้ รายได้ 0-30,000 บาท/ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือ 100 บาท/เดือน และผู้สูงอายุที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,001-100,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือ 50 บาท/เดือน 
6.ค่าน้ำประปา ผู้ที่ได้รับสิทธิ์นี้ต้องถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญจะใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยรัฐจะช่วยเหลือไม่เกิน 100 บาท/ครัวเรือน
7.ค่าไฟฟ้า ผู้ที่ได้รับสิทธิ์นี้ต้องถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ที่สำคัญจะใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งผู้ที่ได้รับเงินต้องใช้ไฟไม่เกิน 230 บาท/ครัวเรือนต่อเดือน 
ซึ่งทั้งค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าจะได้รับเงินตามจริง ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และระยะเวลาของโครงการทั้งสอง มีตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562-กันยายน 2563 รวมระยะเวลาทั้งหมด 11 เดือน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีจำนวนผู้ถือบัตรคนจนที่ได้รับสิทธิ์จำนวนมาก จึงทำให้แต่ละคนอาจจะไม่ได้รับเงินพร้อมกัน ทั้งนี้ผู้ถือบัตรสามารถตรวจสอบสวัสดิการต่างๆ ของตัวเองได้ที่เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th/welfare/check