
ในที่เกิดเหตุนั้นมีตัวพ่วงเทเลอร์หมายเลขทะเบียน 70 2841 สุโขทัย จอดขวางถนนอยู่ ขณะที่หัวลาก ติดป้ายสติ๊กเกอร์บริษัทบัวทองโลจิสติกส์จำกัด หมายเลขทะเบียน 70-2840 สุโขทัย ตกลงไปที่ไหล่ทางช่วงล่างบริเวณล้อหน้าและกันชนได้รับความเสียหาย ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีร่องรอยถูกฟาดเข้ากับสิ่งกีดขวางทำให้บุบและมีน้ำมันเชื้อเพลิงโซล่าไหลออกมาตลอดเวลาคาดว่าจนหมดถังบนถนนก็มีเศษวัตถุจากไฟสัญญาณกระพริบที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางถนนและเสาไฟสูงส่องสว่างทาง ที่รับความเสียหายและแตกเป็นชิ้นกระเด็นกระจัดกระจายอยู่แล้วก็มีร่องรอยของน้ำมันเชื้อเพลิงจากรถพ่วงเทรลเลอร์และร่องรอยเบรกของล้อยางอยู่เต็มถนนขณะเดียวกันรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า แคป สีดำหมายเลขทะเบียน บร 6033กำแพงเพชร ซึ่งเป็นรถคู่กรณีกระบะด้านท้าย ด้านซ้ายมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนจอดอยู่บริเวณทางเข้าศูนย์ราชการ
เบื้องต้นทั้งโชเฟอร์รถพ่วงเทรลเลอร์และโชเฟอร์รถกระบะต่างก็ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลถึงการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้เป็นอย่างดีโดยฝ่ายรถยนต์กระบะนายเกรียงศักดิ์ จูเขียว อายุ 25 ปี เป็นชาวตำบลคีรีมาศอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าขณะที่กำลังขับรถออกจากตัวเมืองกำแพงเพชรไปจอดอยู่ที่ช่องยูเทิร์นเพื่อที่จะเลี้ยวขวาเข้าศูนย์ราชการจังหวัดกำแพงเพชรขณะนั้นมีรถจอดซ้อนคันอยู่ด้านหน้าซ้าย บังอยู่จึงทำให้มองไม่เห็นรถเลนฝั่งตรงข้ามที่มีรถสวนมาจึงได้ขับตามรถคันหน้าอีกคันที่เลี้ยวเข้าศูนย์ราชการ จากนั้นก็มีรถพ่วงเทรลเลอร์เข้ามาเฉี่ยวชนดังกล่าวซึ่งตอนนั้นยอมรับว่ามองไม่เห็นจริงๆ
ด้านโชเฟอร์รถบรรทุกเทรลเลอร์ ชื่อนายพาราดรทองศิริ อายุ 30 ปีเป็นชาวอำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ให้การว่าไปลงสินค้าเหล็กเสร็จแล้วก็ออกจากจังหวัดสุโขทัยเพื่อที่จะมุ่งหน้าไปบรรทุกมันสำปะหลังที่บริษัทอำเภอขาณุวรลักษบุรีจังหวัดกำแพงเพชรเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถกระบะเลี้ยวตัดหน้าจึงทำให้ตัวเองนั้นตัดสินใจหักพวงมาลัยขวาปีนขึ้นเกาะกลางถนนเพราะถ้าหักไปทางซ้ายจะชนกับกระบะเต็มๆเมื่อมองดูด้านหน้าแล้วเป็นถนนโล่งจึงตัดสินใจดังกล่าว เพราะถ้าไม่หักหลบก็จะชนกับรถกระบะเต็มคันก็อาจจะเกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้
ขณะที่ภาพคลิปจากกล้องหน้าศูนย์ราชการก็พบว่าก่อนเกิดเหตุไม่กี่วินาที มีรถหลายคันที่จุดยูเทิร์นและเลี้ยวขวาเพื่อเข้าไปศูนย์ราชการ ทั้งหมด 4 คันคันที่เกิดเหตุเป็นคันสุดท้ายขับมาช้ากว่าคันอื่น ทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าเมื่อเลี้ยวเข้ามาในทางรถสวนเต็มช่องทางบจราจร จังหวะนั้นในภาพก็มีรถพ่วงคันเกิดเหตุปรากฎขับมาด้วยความเร็ว ที่ล้อยางมีควันสีขาวจากการเบรกของคนขับ จากนั้นหักเลี้ยวไปทางขวา เพื่อหลบไม่ให้ชนกับกระบะเป็นเหตุให้รถพ่วงเทรลเลอร์ พุ่งไปปีนเกาะกลางถนน ก่อนที่จะชนป้ายจราจรและเสาไฟส่องทาง โชคดีที่ถนนว่างไม่มีรถวิ่งสวนทางมาในเหตุการณ์นี้จึงมี่ใครได้รับบาดเจ็บและก็คงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่ต้องหาข้อเท็จจริงดำเนินคดีให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายว่าจริงๆแล้วฝ่ายไหนที่เป็นฝ่ายผิด