
ตำนานของเจ้า "อะมะบิเอะ" เท่าที่มีการค้นพบมีจุดเริ่มต้นในปี ค.ศ.1846 หรือกว่า 170 ปีก่อน โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลคนหนึ่งที่กำลังสืบหาที่มาของแสงสีเขียวประหลาดในทะเลในเขตจังหวัดคุมาโมโตะในปัจจุบันได้พบกับอะมะบิเอะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำจากนั้นมันก็แนะนำตัวเองให้เจ้าหน้าที่คนนั้นรู้จักพร้อมทำนายทายทักว่าผลผลิตทางการเกษตรจะเจริญงอกงามและจะมีโรคระบาดเกิดขึ้นดังนั้น หากต้องการขับไล่โรคระบาดให้หมดไปผู้คนจะต้องวาดรูปของมันและบอกต่อให้คนอื่นๆ รู้ให้มากที่สุด ต่อมาภาพของอะมะบิเอะได้ปรากฎในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและทำให้ภาพของมันกลายเป็นที่จดจำของคนทั่วประเทศ
จริงๆแล้วชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันแทบจะลืมตำนานของอะมะบิเอะไปแล้ว แต่เมื่อญี่ปุ่นเจอกับการระบาดของโรคโควิด-19ภาพของมันก็กลับมา เริ่มจากในโลกออนไลน์ ช่วงต้นเดือนมีนาคมหลายคนแชร์ภาพวาดหรือการประดิษฐ์ประดอยสิ่งต่างๆ เป็นรูปของ
อะมะบิเอะจนในที่สุดกระแสนี้ก็ลามมาถึงภาษาอังกฤษ มีการติดแฮชแท็ก #AMABIEchallengeและทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักชื่อของมัน
ช่วงต้นเดือนเมษายนกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นก็ขอเกาะกระแสคลั่งอะมะบิเอะกับเขาด้วยผ่านการโพสต์ภาพของมันควบคู่ไปกับการรณรงค์มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในทวิตเตอร์นอกจากนี้ยังพบภาพของอะมะบิเอะในสิ่งของต่างๆ มากมายในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นหน้ากากผ้า, เจลล้างมือ, ตุ๊กตา, พวงกุญแจ, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย,ไปจนถึงข้าวกล่องและขนมหวาน
ในอดีตภูติหรือโยไค มักปรากฎเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ว่ามีชาวบ้านพบเห็นอยู่เป็นประจำโดยมักเป็นปีศาจที่ดูดุร้ายน่ากลัวแต่ในช่วงหลังโยไคเริ่มมีภาพลักษณ์เปลี่ยนไป มีความเป็นมิตรกับมนุษย์มากขึ้น และกลายเป็นตัวละครในการ์ตูนและวีดีโอเกมส์ในปัจจุบัน
แน่นอนว่าคนญี่ปุ่นในยุคนี้คงไม่ได้เชื่อว่าหากวาดภาพของอะมะบิเอะแล้วโรคโควิด-19จะหายไปได้ แต่อะมะบิเอะคงจะเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความหวังและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นรวมไปถึงมนุษยชาติสามารถฝ่าฝันที่วิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ไปด้วยกัน