ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 12 เม.ย.2563 พล.ต.อ.สุวัฒน์แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ( บก.สส.บช.น.) นำโดย พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัยผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช. ทำการสืบหาบุคคลที่ใช้เฟซบุ๊คในชื่อ "สหายเบิร์น ในตำนาน" หลังโพสต์ข้อความและรูปภาพสลิปเงินโอนเข้า จำนวน 5,000 บาท ตามมาตรการเยียวยาเราไม่ทิ้งกันลงในเพจ สีสัน การเมือง 2006 โดยมีการใช้ข้อความหยาบคาย และกระทบต่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และความรู้สึกของประชาชนโดยทั่วไปนั้น
จากการสอบสวน นายเอกลักษณ์ ได้ให้การว่า ทำงานในตำแหน่งนายท้ายเรือทำหน้าที่จัดการทั่วไปบนเรือ เช่น เคาะสนิม ดึงเชือก กุ๊กทำอาหารและพักอาศัยอยู่บนเรือตลอด ซึ่งตนเองเป็นพนักงานเข้างานใหม่เดือนแรกเพิ่งเข้าทำงานได้ค่าจ้างเดือนละ 13,500 บาทและตนเองอยู่ระหว่างยื่นเอกสารทำประกันสังคม ก่อนหน้านั้นเคยทำงานอยู่ที่บริษัท ค้าน้ำมันประมง แห่งหนึ่ง ต่อมาได้ลาออกจากงาน จึงว่างงานและต่อเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2563เมื่อรัฐบาลได้เปิดให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19ลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทตนเองจึงได้ทำการลงทะเบียนตามระบบในเวปไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.com เพื่อขอรับเงินเยียวยา
"ต่อมาตนได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563ผ่านทางบัญชีธนาคารไทยพานิชย์ และได้แคปเจอร์สลิปโอนเงินที่ได้จากรัฐบาล นำไปโพสต์ในเฟซบุ๊คส่วนตัว ชื่อ สหายเบิร์น ในตำนาน ดังกล่าว พร้อมกับข้อความว่า "ไอ้ควายที่ไหนไม่รู้ โอนเงินมาให้ 5000 เพื่อด่าสลิ่มเห้อ สงสัยจะเป็นไอ้ควายประยุ." ทั้งนี้พอคิดได้ เกรงความผิดจึงได้ลบโพสต์ในวันเดียวกันก่อนที่จะเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนขอยอมรับผิดทุกประการที่ทำลงไปเนื่องจากประสบปัญหาตกงาน และไม่มีงานทำ จึงเกิดความเครียด ทั้งนี้ขอกราบขอโทษพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯ และรัฐบาล โดยตอนนี้มีงานทำแล้ว จะแจ้งหน่วยงานภาครัฐเรื่องตนเองว่ามีประกันสังคม และจะหมดสิทธิรับเงิน 5,000 บาทถ้าหากว่าไม่ผิดเงื่อนไขคุณสมบัติก็จะขอรับสิทธิต่อไปโดยขอโทษสังคมและยอมรับในความผิดที่ได้กระทำลงไปทุกประการ" นายเอกลักษณ์กล่าว