
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ยังคงเดินหน้าสู่การเป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน มุ่งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชนบท เพิ่มยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพองค์กรและชุมชนแบบบูรณาการผ่านโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย ซึ่งการลงพื้นที่ จ. ระนองครั้งนี้ ได้แสดงตัวอย่างการขับเคลื่อนธุรกิจชุมชน โดยใช้การพัฒนากาแฟคุณภาพแบบครบวงจร ที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวจังหวัดระนอง อย่าง ธุรกิจของ "ก้องวัลเลย์"
เจ้าของธุรกิจก้องวัลเลย์ สุพจน์ กรประสิทธิ์วัฒน์ ซึ่งเป็นหัวขบวนในการนำเมล็ดกาแฟจากหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มเกษตรกรทำสวนผสมบ้านในกรัง วิสาหกิจชุมชนบ้านสองแพรก กลุ่มคุณธวัช คนหลัก และจากสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ระนอง จำกัด (สกต.ระนอง) เป็นต้น มาทำเป็นกาแฟคั่วบด รวมถึงพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดย ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อกว่า 20 ล้านบาท
ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สมเกียรติ กิมาวหา เผยว่า ปีนี้ธนาคารได้เพิ่มยุทธศาสตร์ใหม่ คือ พัฒนาศักยภาพองค์กรและชุมชนแบบบูรณาการอย่างยั่งยืนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก จากเดิมมี 5 ยุทธศาสตร์ อาทิ การพัฒนาการบริการทางการเงินครบวงจรและทันสมัย สร้างและพัฒนาเกษตรกรให้เป็น Smart Farmer และผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร SMAEs ยุทธศาสตร์ที่ 5 เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้เกษตรกรรายย่อย ด้วยกลไก Smart Farmer ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร SMAEs และสถาบันเกษตรกร
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อจัดตั้งหน่วยงานที่ขับเคลื่อนโครงการนี้โดยตรง และจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจชุมชนทั้ง 77 จังหวัด เพื่อเป็นศูนย์กลางผสานความร่วมมือจากเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคมและภาคประชาชน พร้อมทั้งสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดเพียงร้อยละ 0.01 ต่อปี ระยะเวลาโครงการ 3 ปี และสินเชื่ออื่น ๆ ตามแผนธุรกิจที่เหมาะสมตามความต้องการของแต่ละชุมชน เพื่อใช้ในการลงทุนและพัฒนา ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กองทุนหมู่บ้าน กลุ่มเกษตรกร สถาบันการเงินประชาชน วิสาหกิจเพื่อสังคม วิสาหกิจชุมชน Smart Farmer SMEs เกษตรที่เป็นหัวขบวน และสหกรณ์การเกษตร
ธนกร ชุมทอง ถ่ายภาพกรรรรนิการ์ รุ่งกิจเจริญกุล เนชั่นทีวี รายงาน