คณะทำงานป้องกันไวรัสของกรุงปักกิ่งประกาศเมื่อวานว่าทุกคนที่กลับเข้าปักกิ่งหลังสิ้นสุดวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ถูกขยายเวลาจนถึงเมื่อวาน 14 ก.พ.จะต้องกักตัวเองในบ้านเพื่อเฝ้าสังเกตอาการนาน 14 วัน และหากใครฝ่าฝืนจะต้องถูกลงโทษ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะบังคับใช้อย่างไร หรือ ครอบคลุมถึงคนที่ไม่ใช่ชาวเมืองปักกิ่งหรือชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากต่างประเทศด้วยหรือไม่
ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตด้วยโรค โควิด-2019 ในทั่วโลกเพิ่มเป็น 1,526 คน และผู้ติดเชื้อทั่วโลก 67,100 คน แต่เฉพาะในจีนมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 143 คนและผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,641 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 1,523 คนและผู้ติดเชื้อ 66,492 คน และเมื่อวานนี้จีนเปิดเผยครั้งแรกมีบุคลากรการแพทย์เสียชีวิต 6 คนและติดเชื้อ 1,716 คน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวเมื่อวานเรียกร้องให้ปรับปรุงระบบการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขและทบทวนกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อ โดยยอมรับว่า ยังมีการเตรียมการไม่เพียงพอรับมือกับหายนะภัย ทั้งในแง่การประเมินความเสี่ยง การวิจัย และการบริหารจัดการเชิงลึกสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งยังไม่มีระบบเฝ้าสังเกตและการเตือนภัยล่วงหน้า และแนวทางพื้นฐานการบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน
ส่วนสถานการณ์การระบาดในทั่วโลก มีผู้ติดเชื้่อรายแรกในอียิปต์ และเป็นรายแรกของทวีปแอฟริกา กระทรวงสาธารณสุขอียิปต์ ยืนยันเมื่อวานว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นชาวต่างชาติ แต่ไม่ระบุสัญชาติหรือรายละเอียดอื่นใด นอกจากบอกว่าไม่มีอาการป่วยรุนแรง
นอกจากนี้ญี่ปุ่นกังวลว่าสถานการณ์ระบาดขยายวงกว้างขึ้นหลังจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 259 ราย และมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศที่ไม่เคยไปจีนเพิ่มขึ้น โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งในกรุงโตเกียว จังหวัดไอจิ, ฮอกไกโด และโอกินาวาเมื่อวาน และมีคนขับแท็กซี่คนหนึ่ง ที่อาจแพร่เชื้อให้อีกหลายคน และเจ้าหน้าที่จะตรวจหาเชื้อประชาชนเกือบ 100 คนที่สัมผัสใกล้ชิดกับเขา ซึ่งเกือบ 10 คนเริ่มมีไข้และอาการอื่นๆ นอกจากนี้มีแพทย์รายแรกติดเชื้อที่โรงพยาบาลในจังหวัดวากายามา