จากกรณีชายวัย 40 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงออกมาจากบ้านพัก ในพื้นที่โซนขายเสื้อผ้า ภายในจุฬาซอย 10 ถนนบรรทัดทอง กทม. จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องปิดกั้นพื้นที่ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าทำการเจรจา และสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
สน.ปทุมวัน - เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฯ ได้ให้พี่ชายผู้ต้องหาเข้าไปที่เกลี่ยกล่อมเป็นเวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งทำให้ผู้ก่อเหตุสามารถสงบสติอารมณ์ได้ และยอมมอบตัวกับตำรวจ เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่า นายเอกชัย ได้ครอบครองอาวุธปืนที่จดทะเบียนทั้งหมด 4 กระบอก โดยใช้ในที่เกิดเหตุ 2 กระบอกคือปืนชนิดโคลท์ .45 และปืนกล็อก 9 มม.ซึ่งเป็นการยิงแบบไร้ทิศทางประมาณ 30-40 นัด จากนี้จะเสนอขอเพิกถอนใบนุญาตถือครองอาวุธปืนของผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่อันตรายต่อประชาชน โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง
เบื้องต้นจากการพูดคุยกับผู้ต้องหาพบว่า มีอาการปกติและอารมณ์เย็นลง โดยระบุว่า สาเหตุที่ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนยิงนั้น เป็นเพราะมีปัญหาส่วนตัว เกิดจากปัญหาครอบครัวและการค้า จากนี้จะส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อหา "พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร" ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบ เพราะไม่ทราบว่ากระสุนปืนที่ออกไปนั้น ไปตกกระทบกับทรัพย์สินผู้ใดหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นพฤติกรรมเลียนแบบเหตุกราดยิงที่เทอร์มินัล 21 โคราช หรือไม่ รอง ผบช.น.กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ต้องหา ทราบว่า สาเหตุยิงปืน เพราะแค่อยากระบายความเครียดเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาก่อเหตุยิงผู้ใด โดยผู้ต้องหาได้ฝากขอโทษสังคมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า ก่อนหน้านี้วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ นายเอกชัย ได้ใช้อาวุธยิงปืนขึ้นฟ้าประมาณ 5 นัด แต่ไม่มีใครติดใจเอาความ และสาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมีปัญหาทางธุรกิจ