svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ปวดน่องเวลาเดิน สัญญาณเตือน โรคหลอดเลือดแดงขาตีบ!

ร่างการคนเรานั่น จะสงสัญญาณเตือนเมื่อมีอาการป่วย โดยเฉพาะจุดเล็กๆที่ไม่ควรข้าม โดยโรคหลอดเลือดขาตีบ โดยจะมีอาการ ปวดน่องข้างขวาเมื่อเดินได้ราว 200 เมตร ถ้าฝืนเดินต่อ ก็จะปวดมากขึ้นจนแทบเดินกะเผลก เพจมูลนิธิหมอชาวบ้าน ได้โพสต์บอกถึงสาเหตุและอาการของโรคไว้ดังนี้..

ปวดน่องเวลาเดิน : โรคหลอดเลือดแดงขาตีบ
ลองสังเกตตัวเองว่าคราใดที่เดินเร็วๆ หรือเดินถือของหนักๆ จะมีอาการปวดน่องข้างขวาเมื่อเดินได้ราว 200 เมตร ถ้าฝืนเดินต่อ ก็จะปวดมากขึ้นจนแทบเดินกะเผลก ทำให้ต้องหยุดพักหรือเดินช้าๆ ก็จะทุเลาปวด ในใจก็คิดว่า น่าจะเป็นอาการปวดกล้ามเนื้อน่องจากการขาดเลือด เพราะหลอดเลือดแดงขาตีบ ดังที่ทางแพทย์เรียกว่า "อาการปวดน่องจากการขาดเลือดเป็นพักๆ (intermittent claudication)"
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดแดงขาตีบตัน
1.มีโรคเรื้อรังประจำตัว อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกัน แล้วไม่ได้ดูแลรักษาอย่างจริงจัง หรือเป็นโดยไม่รู้ตัวมานานเพราะไม่เคยตรวจสุขภาพได้แก่ เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูงหรือผิดปกติ
2.สูบบุหรี่
3.มีภาวะอ้วน มักเกิดจากการบริโภคเกิน และ/หรือขาดการออกกำลังกาย
4.อายุมากกว่า 50 ปี
5.พันธุกรรม มีญาติสายตรงเป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบตัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน (อัมพฤกษ์ อัมพาต) ก่อนอายุ 50 ปี

ปวดน่องเวลาเดิน สัญญาณเตือน โรคหลอดเลือดแดงขาตีบ!


อาการแสดงของโรคหลอดเลือดแดงขาตีบตัน
1. เริ่มแรก ขาข้างที่เป็นมีอาการปวดเวลาเดินไปได้สักพักหนึ่ง (ประมาณ 200 เมตร) มักมีอาการปวดหน่วงๆ ที่น่อง บางคนอาจปวดที่ต้นขาหรือสะโพกร่วมด้วย พอหยุดเดินสัก 2-3 นาทีก็ทุเลาเอง เมื่อเดินต่อสักพัก ก็จะกำเริบอีก หากมีอาการปวดขา แล้วยังฝืนเดินต่อไปอีก ก็จะปวดมากขึ้น จนเดินขาลาก ทำให้ต้องหยุดเดิน บางคนอาจมีอาการเป็นตะคริวที่น่องตอนกลางคืน

2. เมื่อเป็นมากขึ้น จะมีอาการปวดขามากขึ้น มีอาการปวดขาหลังจากเดินได้ระยะสั้นกว่าเดิม และในที่สุดแม้อยู่เฉยๆ ก็มีอาการปวดขา อาจเป็นมากถึงขั้นนอนไม่หลับ หรืออาจมีอาการอื่นๆ ตามมา ได้แก่
- ขาข้างที่เป็นมีอาการชาหรืออ่อนแรง
- เท้าข้างที่เป็นซีดและสากกว่าข้างที่ปกติเย็น
- ขนและเล็บงอกช้ากว่าขาข้างที่ปกติ
- เกิดแผลที่ปลายเท้าเรื้อรัง และหายยาก
- ชีพจรที่ขาและเท้าของขาข้างที่เป็นคลำได้เบาหรือไม่ได้
3. ภาวะที่อาจพบร่วม ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย (องคชาตไม่แข็งตัว หรือ "นกเขาไม่ขัน") โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน (เจ็บหน้าอก หรือหัวใจวายกะทันหัน) โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน (อัมพฤกษ์ อัมพาต) ไตวายเรื้อรัง