
ที่ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลรามาธิบดีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง ยอมรับว่ามีผู้ป่วยหลายรายที่ใช้กัญชาในการรักษาโรคมะเร็งแล้วไม่หาย ทั้งยังมีผลข้างเคียงต่อตับและไต
การใช้กัญชาทางการแพทย์ โดยผู้จ่ายยาที่ไม่ใช่แพทย์ มักมีลักษณะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อว่ารักษาได้ผล หมอผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีโอกาสพูดความจริงแก่ประชาชนกว้างขวางมากนัก
ผศ.นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ ภาควิชาอายุรศาสตร์ เภสัชวิทยา และพิษวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ยืนยันว่า ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่เพียงพอที่จะสนับสนุนให้ใช้สารสกัดกัญชาเป็นยารักษาโรคมะเร็งเพียงแต่ใช้บรรเทาอาการตามข้อบ่งชี้เมื่อการรักษาตามมาตรฐานแล้วยังไม่ได้เป้าที่เพียงพอเท่านั้น
กรมการแพทย์ ได้ระบุให้กัญชาใช้รักษาตามข้อบ่งชี้ หลัก 6 ข้อ คือ 1) ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 2)โรคลมชักที่รักษายาก 3) ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อม 4) ภาวะปวดประสาท 5) ภาวะเบื่ออาหารในผู้ป่วยเอดส์ที่มีน้ำหนักตัวน้อย และ 6) การเพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยที่ดูแลแบบประคับประคอง
แพทย์เฉพาะทาง รักษาโรคมะเร็ง รศ.พญ.ธัญนันท์ เรืองเวทย์วัฒนา ภาควิชาอายุรศาสตร์ มะเร็งวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี บอกว่า ที่มีหลายกรณีผู้ป่วยที่มีการกล่าวอ้างถึงการกัญชาแล้วหายจากการเป็นโรคมะเร็งนั้น อาจเป็นผลจากการรักษาตามแบบการแพทย์มาตรฐานแบบใหม่มากกว่า
ส่วนความเชื่อที่ว่าหากเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่ มาสูบกัญชาแล้วจะหลีกเลี่ยงการเป็นมะเร็งปอดได้ อันนี้ก็เป็นความเชื่อที่ผิดอีกเช่นเดียวกัน เพราะการสูดควันเข้าไปลงในปอดย่อมก่อให้เกิดอาการอักเสบ
จะเห็นได้ว่า กัญชา ซึ่งมีส่วนประกอบของ สาร CBD และ THC ก็คือยาแบบหนึ่ง ใช้อย่างถูกต้องมีการแนะนำติดตามดูแลเหมาะสมก็มีประสิทธิภาพ แต่หากใช้แบบขาดความเข้าใจ ไร้มาตรฐานก็ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้