ความคิดเห็นของแกนนำผู้ปกครองที่เดินทางมาให้กำลังใจคุณครูคนนี้ ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สะท้อนให้เห็นว่า "การใช้ไม้เรียว" จำเป็น และเป็นสิ่งคุ้นชินมาแต่โบราณ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการ ให้สอดรับกับโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว
"ครูกับไม้เรียวเป็นของคู่กัน" เป็นประโยคที่เราได้ยินมานานนมแล้ว แต่ในโลกสมัยใหม่ การใช้ไม้เรียวสั่งสอนเด็ก อาจต้องเปลี่ยนความคิด
" วชิรวิทย์รายวัน" ก็เคยเป็นเด็กนักเรียน ปัจจุบันอายุ 27 ปี ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อนการลงโทษด้วยไม้เรียวถือเป็นเรื่องปกติ แต่ในฐานะเด็ก ก็เคยตั้งคำถามอยู่เหมือนกันว่า การลงโทษด้วยการเฆี่ยนตี ที่ใช้ความรุนแรง ช่วยแก้ปัญหาหรือไม่ อะไรคือเหตุผลให้ต้องถูกลงโทษในอัตราที่รุนแรงขนาดนั้น หรือจริงๆแล้วเป็นเพียงการสร้างความหวาดกลัว ไม่ให้ทำผิดซ้ำ
ถ้าไม่ต้องการให้เด็กคนหนึ่งไม่ทำผิดซ้ำมีอะไรที่ดีไปกว่า "การใช้ความรุนแรง" อีกหรือไม่
ตอนนี้โลกที่ยุคข้อมูลข่าวสารสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย การหาเหตุและหาคำตอบของเรื่องบางเรื่อง ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสเพียงแค่ค้นหาใน Google
การสร้างความหวาดกลัวในการลงโทษที่ใช้ความรุนแรง อาจไม่ได้ผลในยุคสมัยปัจจุบันการอธิบายด้วยเหตุและผลต่างหาก สำคัญกว่า
จริงอยู่ว่าทุกสังคมต้องวางกติกา ซึ่งหากละเมิดกฎก็จะต้องมีบทลงโทษตามมา แต่ความเป็นธรรม และทางออกในการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีเป็นเรื่องที่โรงเรียนซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานของสังคม ควรบ่มเพาะอย่างยิ่ง มิฉะนั้นแล้ว หากอยู่ในสังคมโรงเรียนที่แก้ปัญหาด้วยความรุนแรงและอาศัยความหวาดกลัว จะก็ถูกปลูกฝั่งไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ความรุนแรงและการสร้างความหวาดกลัวต่อผู้อื่นเป็นทางออก
"ไม้เรียวกับครู" จึงเป็นการต่อสู้กันทางความคิดระหว่างคนสองกลุ่ม กลุ่มคน "อนุรักษ์นิยม" กับกลุ่มคน "หัวก้าวหน้า" แนวคิดที่แตกต่างกันทั้ง 2 ขั้ว ปะทะกันด้วยความสร้างสรรค์ ก็จะเกิดประโยชน์ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะละเอียดอ่อน เกินกว่าจะถกเถียง
ในทวิตเตอร์ซึ่งเป็นสังคมของคนรุ่นใหม่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างรุนแรง ในขณะที่สังคมที่โรงเรียนแห่งนั้น เห็นดีเห็นงามกับการที่คุณครูใช้ไม้เรียวตีเด็ก เพราะเป็นวิธีการโบราณ ที่จะสอนให้เป็นคนดีได้
ในทวิตเตอร์ระบุว่า ยอมที่จะย้ายลูกไปเรียนโรงเรียนที่เสียเงินแพงๆ เพื่อ "ซื้อสังคมให้ลูก" ได้อยู่ท่ามกลาง "สังคมที่เป็นสากล" ที่จะแก้ไขปัญหาด้วยสันติ มีเหตุมีผล
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีอยู่ของโซเชียลมีเดียทำให้เกิดการตรวจสอบและเกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง
ไม่มีอีกแล้วที่จะทำอะไรตามใจชอบโดยไม่คิดถึงผลกระทบที่จะตามมาในวงกว้าง เพราะสังคมทุกวันนี้ไม่ได้กระจุกอยู่เพียงพื้นที่แคบๆ
แต่ทุกคนทั้งโลกกำลังจับตาดูอยู่และ จาก "ผู้จับตามอง" ก็พร้อมจะเปลี่ยนสถานะมาเป็น "ผู้พิพากษา" ได้อย่างง่ายดาย
#วชิรวิทย์ #วชิรวิทย์รายวัน #Vajiravit #VajiravitDaily #Nation #NationTV22