นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท. และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (เอกชนคู่สัญญา) ได้เข้าทำสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์กำหนดของคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.)
วันนี้ (6 พ.ย.) ร.ฟ.ท.จึงได้จัดทำ และเปิดเผยข้อมูลสาระสำคัญสัญญาร่วมลงทุน และวิธีการคัดเลือกเอกชนในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ให้สาธารณชนทราบเป็นการทั่วไปภายใน 30 วัน เพื่อให้การคัดเลือกเอกชนคู่สัญญาในโครงการเป็นไปตามเปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยรายละเอียดที่มีการเปิดเผยครั้งนี้ ประกอบไปด้วย
1. ข้อมูลสำระสำคัญของสัญญาร่วมลงทุนตามรายละเอียดที่ปรากฏในเอกสารแนบท้าย 1
2.ข้อมูลสาระสำคัญของวิธีการคัดเลือกเอกชนตามรายละเอียดที่ปรากฏในเอกสารแนบท้าย 2
3. สัญญาร่วมลงทุนฉบับลงนามตามรายละเอียดที่ปรากฏในเอกสารแนบท้าย 3
4. ประกาศเชิญชวนและเอกสารการคัดเลือกเอกชนตามรายละเอียดที่ปรากฏในเอกสารแนบท้าย 4
สำหรับสาระสำคัญของเอกสารที่เปิดเผยนั้น มีการระบุถึงประเด็นของการพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการ โดย ร.ฟ.ท.จะมอบสิทธิให้เอกชนพัฒนาโครงการในระยะเวลา 50 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มต้นนับระยะเวลาการพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการ
ขณะที่การดำเนินกิจการทางพาณิชย์ แบ่งออกเป็น ในส่วนของสถานีดอนเมือง และสถานีบางซื่อ จะเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่เริ่มระยะเวลาของงานในระยะที่ 2 ซึ่งเป็นงานในส่วนของแอร์พอร์ต เรลลิงก์ส่วนต่อขยาย ในส่วนของสถานีพญาไท สถานีราชปรารภ สถานีรามคำแหง สถานีหัวหมาก สถานีบ้านทับช้าง สถานีลาดกระบัง สถานีมักกะสัน และสถานีสุวรรณภูมิ จะเริ่มนับระยะเวลาเมื่อเอกชนคู่สัญญาชำระค่าให้สิทธิร่วมลงทุนในแอร์พอร์ต เรลลิงก์
ในส่วนของสถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และสถานีอู่ตะเภา จะเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่เริ่มระยะเวลาของงานในระยะที่ 2 ในส่วนของรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นงานช่วงการให้บริการเดินรถ และงานการซ่อมและบำรุงรักษา
ส่วนประเด็นของอัตราค่าบริการ มีการกำหนดอัตราค่าโดยสารสำหรับแอร์พอร์ต เรลลิงก์ หรือแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ส่วนต่อขยาย แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงระยะเวลาที่เอกชนเริ่มให้บริการเดินรถและบำรุงรักษาในส่วนของแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ให้เก็บค่าโดยสารตั้งแต่สถานีต้นทางถึงสถานีปลายทางมีจำนวนไม่เกิน 45 บาท และช่วงภายหลังเอกชนดำเนินการก่อสร้างแอร์พอร์ต เรลลิงก์ส่วนต่อขยาย ให้เก็บค่าโดยสารตั้งแต่สถานีต้นทางถึงสถานีปลายทาง ไม่เกิน 97 บาท
ด้านอัตราค่าโดยสารสำหรับรถไฟความเร็วสูง ตั้งแต่สถานีต้นทางถึงสถานีปลายทาง มีการกำหนดอัตราค่าโดยสารจำนวนไม่เกิน 490 บาท ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าโดยสารให้เป็นไปตามดัชนีราคาผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตามระยะเวลาและแนวทางการคำนวณที่กำหนดไว้ในสัญญา