
นายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรียืนยันว่า การทำโครงการ ชิมช้อปใช้ ไม่ใช่เป็นการส่งเสริมให้คนไปฟุ่มเฟือย แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ การท่องเที่ยวในระดับชุมชนเพื่อชดเชยภาคส่งออกที่ชะลอตัวลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม มาตรการชิมช้อปใช้เฟส 3 ต้องขอให้ใจเย็นๆ เพราะต้องให้เวลากระทรวงการคลังไปประเมินรายละเอียดก่อน
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากธนาคารกรุงไทยว่ายอดลงทะเบียน ชิมช้อปใช้ เฟส 2 เต็มจำนวนทั้ง 3 ล้านคนแล้ว ทำให้รวมทั้งหมดมีผู้ลงทะเบียนร่วม มาตรการชิมช้อปใช้ อยู่ที่ 13 ล้านคน และจะมีสิทธิ์ใช้จ่ายผ่านแอปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ โดยในวันที่ 1 พฤศจิกายน ธนาคารกรุงไทยเตรียมเปิดตัวแคมเปญใหญ่เกี่ยวข้องกับมาตรการชิมช้อปใช้ โดยเชิญผู้ประกอบการ โรงแรมและที่พักทั่วประเทศ เข้ามาร่วมมาตรการดังกล่าวมากขึ้น
"ส่วนมาตรการชิมช้อปใช้ระยะที่ 3 กระทรวงการคลัง ต้องขอเวลาประเมินผลมาตรการชิมช้อปใช้เฟสที่ 1 กับ 2 ก่อน โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งต้องรอดูก่อนว่ามาตรการที่ออกไปแล้วจะมีผลอย่างไรบ้าง เพราะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม คลังขอดูก่อนว่ายังมีความต้องการที่จะลงทะเบียนมากน้อยแค่ไหน และดูว่าจะต้องปรับปรุงเงื่อนไขอะไรหรือไม่ เช่น การให้เงินอุดหนุนในกระเป๋าที่ 1 จำนวน 1,000 บาทยังจำเป็นอยู่หรือไม่ รวมถึงการขยายจำนวนผู้รับสิทธิ์เพิ่มเติมจาก 13 ล้านคน ก่อนจะเปิดให้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ เฟส 3 ได้"