
นักเรียนและนักศึกษาหลายร้อยคนปักหลักชุมนุมที่หน้าโรงเรียนมัธยมปลายในเขตเชิงหว่าน ซึ่งเป็นสถานศึกษาของเด็กหนุ่มวัย 18 ปี ที่ถูกตำรวจยิงระยะเผาขนระหว่างร่วมประท้วงในวันชาติจีนเมื่อคืนวันอังคาร และอาการทรงตัวแล้ว ผู้ชุมนุมกล่าวหาว่า การกระทำของตำรวจเป็นการใช้กำลังอย่างไม่สมเหตุผล เกินกว่าเหตุ และ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งตะโกนต่อต้านตำรวจและเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ
นอกจากนี้พนักงานบริษัทหลายร้อยคนเดินขบวนช่วงพักกลางวันที่สวนสาธารณะชาเตอร์ การ์เดน ในย่านเซ็นทรัลเพื่อประณามตำรวจ และบางคนตะโกนให้ยุบสำนักงานตำรวจ
ขณะที่ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งตั้งโต๊ะแถลงกล่าวหาว่า ตำรวจมีเจตนาฆ่าผู้ประท้วงโดยหลายคลิปเผยให้เห็นตำรวจยิงใส่นักเรียนเข้าที่หน้าอกในระยะเผาขน พร้อมทั้งกล่าวหาว่า ตำรวจโกหกที่บอกว่ายิงใกล้หัวไหล่ แต่จากภาพเอ็กซ์เรย์จะเห็นได้ว่าเศษกระสุนอยู่ห่างจากหัวใจเพียง 3 ซม.และพวกเขาจะปลุกระดมการชุมนุมครั้งต่อไป
แต่รองผู้บัญชาการตำรวจแถลงวันนี้ปฏิเสธข้อกล่าวหาสำนักงานตำรวจมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ยิงสังหารผู้ประท้วงได้ และยืนยันว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ตั้งใจฆ่า และการยิงก็เป็นไปตามข้อบังคับของตำรวจฮ่องกงและมาตรฐานสากลเพื่อป้องกันตัวเมื่อรู้สึกว่าชีวิตตกอยู่ในอันตราย รวมทั้งสรุปว่า มีการจับกุมผู้ประท้วง 269 คนจากการชุมนุมเมื่อวาน มีประชาชนบาดเจ็บ 113 คนและตำรวจ 30 นายได้รับบาดเจ็บและเมื่อคืนวาน ผู้บัญชาการตำรวจฮ่องกง แถลงว่า ตำรวจยิงกระสุนจริงทั้งหมด 6 นัดในการปะทะ 4 จุดเมื่อวาน โดยนอกจากกระสุนที่ยิงถูกนักเรียนแล้ว อีก 5 นัดเป็นการยิงเตือนขึ้นฟ้า
ขณะที่สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน เผยแพร่บทวิจารณ์ในวันนี้ปกป้องการกระทำของตำรวจฮ่องกงที่ยิงนักเรียนว่า กลุ่มผู้ประท้วงรุมตีตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงเพื่อปกป้องชีวิตและเพื่อนร่วมงาน การกระทำของเขาทั้งเหมาะสม มีความชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้บทความยังชี้ว่า ระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการประท้วงยืดเยื้อกว่า 3 เดือนในฮ่องกงเข้าใกล้ขั้นบ้าคลั่ง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่าตกเป็นเหยื่อของการหลอกใช้จากผู้ชักใย ที่ยุยงให้พวกเขาเดินขบวนและกระทำผิดกฎหมาย นอกจากนี้บทความยังระบุว่า ผู้ประท้วงสวมชุดดำเป็นภัยก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุดต่อฮ่องกง