svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

กมธ.ค่าโง่ทางด่วนเรียก BEM แจงสัปดาห์หน้า

01 สิงหาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คณะกรรมาธิการฯ ค่าโง่ทางด่วน เรียกบีอีเอ็มให้ข้อมูลสัปดาห์หน้า ขณะที่หมอระวีระบุเอกชนทำรายได้กว่า 1.6 แสนล้านบาท ทั้งที่ลงทุนก่อสร้างแค่ 2.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างกรรมาธิการฯต่างพรรคบานปลาย

ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาการขยายสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) สภาผู้แทนราษฎร นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ระบุ การประชุมคณะกรรมาธิการฯวานนี้ได้รับการชี้แจงจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ.ค่อนข้างรอบด้าน เช่น ประเด็นรายได้ของกทพ. และรายได้ของผู้รับสัมปทานในระยะเวลา 30 ปี หากต่อสัญญาสัมปทานพบว่าจะมีรายได้สูงถึง 750,000 ล้านบาท
ส่วนการเปรียบเทียบการลงทุนของบริษัทเอกชน 2 แห่ง คือ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM และบมจ.ทางด่วนกรุงเทพ หรือ BECL พบว่าใช้เงินลงทุนตั้งแต่ก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 2 เป็นเงินประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้ตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้นกว่า 1.6 แสนล้านบาท
สหภาพฯ กทพ. ยังคัดค้านเรื่องการพิจารณาเรื่องการต่อสัญญาสัมปทานว่าฝ่ายบริหารมีความรอบคอบเพียงพอหรือไม่ รวมถึงตั้งคำถามถึงช่องทางการต่อสู้คดีภายใต้เงื่อนไขว่าประเทศต้องได้รับความเสียหายด้านงบประมาณน้อยที่สุด โดยสหภาพฯ ระบุว่า ตามปกติทุกคดีที่มีการฟ้องร้องจะมีการปรึกษากับอัยการสูงสุด เช่นเดียวกับกรณีล่าสุดที่อัยการชี้ว่ามีทางสู้ได้ เป็นเหตุให้กทพ.เลือกสู้คดีมาโดยตลอด
สำหรับอุปสรรคปัญหาในการประชุมของคณะกรรมาธิการฯนั้น นายแพทย์ ระวี บอกว่า มีความล่าช้าจากความไม่พร้อมของบางหน่วยงาน ที่อาจส่งผลให้ไม่สามารถสรุปรายงานการศึกษาได้กรอบระยะเวลา 45 วัน เบื้องต้นที่ประชุมเห็นว่าควรให้ผู้ชี้แจงได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จสิ้นเสียก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยเปิดโอกาสให้กรรมาธิการฯได้ซักถาม ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ที่มีการตั้งคำถามแทรกระหว่างการชี้แจงอยู่ตลอดเวลา ส่วนประเด็นการสรุปรายงานไม่ทันตามกรอบเวลา ขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาว่าจะต้องเพิ่มเวลาการประชุมหรือไม่
ด้านสส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในกรรมาธิการฯ วทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ บอกว่า ที่ประชุมมีมติให้เชิญตัวแทนจาก BEM พร้อมด้วยตัวแทนคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาชี้แจงในสัปดาห์หน้า
ส่วนการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งมีความล่าช้าและมีแนวโน้มสรุปรายงานไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนด 45 วันนั้น ยังมีปัญหาขัดแย้งระหว่างกรรมาธิการฯจากต่างพรรคการเมือง ว่าด้วยเรื่องการกล่าวหาว่าอีกฝ่ายแก้ไขมติที่ประชุม จนทำให้การประชุมเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมต้องล่มกลางคันด้วย
โดยฝ่ายกล่าวหาคือ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการฯ ที่อ้างว่านายแพทย์ระวี แก้ไขมติที่ประชุมที่ให้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงปัญหาค่าโง่และการขยายสัมปทาน 5 หน่วยงานในคราวเดียวกัน แต่มีการไปแก้ไขให้เชิญทีละหน่วยงาน ซึ่งนายแพทย์ระวีแถลงตอบโต้ว่าไม่เป็นความจริง
ล่าสุด นายยุทธพงศ์ แถลงภายหลังการประชุมว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาส่วนตัว แต่เป็นการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ เนื่องจากรายงานการประชุมสัปดาห์ก่อนไม่ตรงตามความเป็นจริง ตนจึงทักท้วงให้แก้ไข โดยนายแพทย์ระวีได้ขอโทษ ซึ่งรายงานการประชุมเป็นเอกสารที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้โดยใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องมาจากมติของที่ประชุมเท่านั้น เหตุนี้ตนจึงจะเดินหน้าดำเนินการทางกฎหมายกับนายแพทย์ระวีและพวก ซึ่งขณะนี้ตนมีหลักฐานพร้อม

logoline