"ซัมซุง" กำไรหด 56% ส่วน "ไอโฟน" รายได้ฮวบ ต่ำสุดในรอบ 7 ปี

บริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยผลกำไรช่วงไตรมาสที่สอง ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายนที่ผ่านมา อยู่ที่ 6.6 ล้านล้านวอน ลดลงจาก 14.87 ล้านล้านวอนในช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลงถึง 56% ขณะที่เมื่อดูเฉพาะรายได้ พบว่าลดลง 4% ส่งผลให้ราคาหุ้นของซัมซุงปรับตัวลดลงถึง 3.3% ในช่วงหนึ่งของการซื้อขายวันนี้

ซัมซุงซึ่งยังคงเป็นเจ้าตลาดสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลกระบุว่า สาเหตุสำคัญมาจากธุรกิจผลิตเมมโมรีชิปที่มีราคาในตลาดลดลงแม้มีความต้องการสูงขึ้นเล็กน้อยเช่นเดียวกับยอดขายสมาร์ทโฟนรุ่นกาแล็กซี เอส10 ที่เป็นรุ่นเรือธง เนื่องจากความต้องการในผลิตภัณฑ์ประเภทพรีเมียมลดลงตามสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ยอดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นที่ราคาถูกกว่าอย่างตระกูลกาแล็กซีเอ ปรับตัวสูงขึ้น

ส่วนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซัมซุงเตรียมเปิดตัวโทรศัพท์มือถืออีก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นกาแล็กซี โน๊ต10 และสมาร์ทโฟนพับได้ "กาแล็กซี โฟลด์" ที่เตรียมกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้ง หลังพบปัญหาในการเปิดตัวครั้งแรก แต่ซัมซุงคาดว่า ธุรกิจจะยังคงมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะความตึงเครียดทางการค้าระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นที่ซัมซุงบอกว่า เป็นความท้าทายครั้งสำคัญ

ด้านแอปเปิ้ลเปิดเผยว่า ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายไอโฟนทั่วโลกลดลง 12% ทำให้มีสัดส่วนคิดเป็นไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรายได้รวมของบริษัทเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี แต่ในขณะเดียวกัน รายได้รวมถือว่าปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากธุรกิจคอนเทนต์และการบริการ เช่น เพลงและแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมถึงในกลุ่มแอปเปิ้ลว้อทช์และแอสเซสซอรี่ที่เติบโตเกือบ 50% โดยทิม คุ้ก ซีอีโอของแอปเปิ้ลระบุว่า นี่ถือเป็นความสำเร็จของบริษัทในการกระจายช่องทางของรายได้ไม่ให้กระจุกอยู่กับผลิตภัณฑ์เดียว