svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

อีกนิดนึงก็หม่นและ Spider-Man : Far from home...โตเป็นหนุ่มแล้วนะ "ปีเตอร์"

07 กรกฎาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทุกคำถามของหนังมาร์เวลลในเฟส 3 ได้ข้อสรุปและจบบริบูรณ์แล้วในหนังเรื่อง Spider-Man : Far from home นึกๆแล้วทางมาร์เวล ก็ยังทิ้งปมไว้ในหนังแต่ละเรื่องของค่ายนี้ก็ยังมีอีกเยอะ มากมายมหาศาล บางเรื่องราว จะไปอยู่ในหนังภาคต่อ บางเรื่องราวก็จะถูกลดให้ไปเป็นซีรีย์แทน แฟนๆมาร์เวลจะต้องติดตามเรื่องราวฮีโร่ ที่ทาง มาร์เวล สตูดิโอ ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาอีกหลายปีกันเลยทีเดียว

จากที่บทความที่แล้วลงเรื่องที่เกือบจะเป็นการเมืองไป โดนแฟนเพจ NationTV22 แซะแทบโงหัวไม่ขึ้น วันนี้ผมเลยมารีวิวหนังเรื่อง Spider-Man : Far from home ดีกว่า ไม่รู้ว่าจะดราม่าหรือไม่นะครับ
แต่ก่อนที่จะเลื่อนอ่านในบรรทัดต่อไป เตือนสำหรับคนที่ไม่ได้ดู Avengers EndGame นะครับ ว่าในบทความนี้มีสปอยล์เนื้อเรื่องหลักๆ Avengers EndGame อยู่พอสมควร!

อีกนิดนึงก็หม่นและ Spider-Man : Far from home...โตเป็นหนุ่มแล้วนะ "ปีเตอร์"


Spider-Man : Far from home หนังปิดเฟสที่ 3 ของ Marvel Cinematic Universe ครับ ทั้งที่หลายๆ คน เขาใจไปว่า Avenger EndGame เป็นเรื่องสุดท้ายในเฟสนี้ แต่ไม่ใช่ครับ Spider-Man : Far from home ต่างหาก
หลายคนก็ตั้งคำถามครับว่า "ทำไมถึงต้องเป็น Spider-Man มาปิดเฟสหล่ะ ในเมื่อง EndGame หนังที่รวมซุปเปอร์ฮีโร่ที่สเกลหนังมันใหญ่มากๆมันควรจะก็จบอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว" สิ่งที่ผมคิดเองในคำตอบนี้้ก็คือ หลังจากที่ 2 ฮีโร่ตัวหลักของจักรวาลหนังมาร์เวล "โทนี่ สตาร์ค หรือ ไอรอนแมน" สละชีพเพื่อช่วยโลก และ "กัปตันอเมริกา" ที่ตัดสินใจเกษียรตัวเองในบทบาทฮีโร่ไปใช้ชีวิตที่อยากจะใช้ใน EndGame นั้นทำให้มีผลกระทบอย่างสูงให้กับบรรดาฮีโร่ที่ยังเหลืออยู่
โดยเฉพาะกับ "ปีเตอร์ พาร์คเกอร์" หรือ Spider-Man ที่เป็นศิษย์เอกของ โทนี่สตาร์ค ว่าพ่อพระเอกพาร์คเกอร์ ของเราจะใช้ชีวิตฮีโร่ได้อย่างไร เมื่อไร้อาจารย์ที่คอยช่วยเหลือ แนะนำอย่างที่เคยเป็นมา

อีกนิดนึงก็หม่นและ Spider-Man : Far from home...โตเป็นหนุ่มแล้วนะ "ปีเตอร์"

อีกอย่างที่น่าสนใจไม่ไม่น้อยที่นอกเหนือจากเนื้อเรื่องและตัวฮีโร่คือ นักแสดงที่ผมคิดว่าเป็นดาราที่เล่นเรื่องไหนก็สมบทบาทไปซะทุกเรื่องอย่าง "เจค จิลเลนฮาล" ที่มารับบบท "มิสเตอริโอ" ทั้งที่ก่อนหน้านี้ "เจค" มีข่าวว่าเขาได้บทที่น่าท้าทายคือการไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะได้แสดงเป็น "แบทแมน" ฉบับสร้างใหม่ แต่เขาเลือกที่จะมารับบทในจักรวาลมาร์เวลแทน
ผมไม่ขอเอ่ยถึง ภารกิจ และ เนื้อเรื่องนะครับ เพราะว่า ถ้าเล่าอะไรไปแค่นิดเดียวจะเป็นสปอยล์หนังเรื่องนี้ไปในทันที
แต่ที่พอจะบอกเล่าได้ก็คือ พล็อตเรื่อง น่าสนใจมากๆครับ กับผลกระทบหลังจากการดีดนิ้วของ "ทานอส" ใน Infinity War และความคาดหวังของประชาชนชาวโลกที่ต่างก็ตั้งคำถามว่า ใครจะเป็นผู้นำแห่งทีม Avengers คนต่อไปหลังจากเสียกำลังหลักไปถึง 2 คน

อีกนิดนึงก็หม่นและ Spider-Man : Far from home...โตเป็นหนุ่มแล้วนะ "ปีเตอร์"


มุมมองของ "มิสเตอริโอ" และปูมหลังของตัวละครนี้ จนมาถึงการเลือกที่จะกระทำสิ่งต่างๆในหนัง ก็ดูสมเหตุสมผล สนุก และลุ้นไปกับมันได้ครับ

อีกนิดนึงก็หม่นและ Spider-Man : Far from home...โตเป็นหนุ่มแล้วนะ "ปีเตอร์"

และเหตุผลของ "นิค ฟิวรี่" ที่เลือกมาติดต่อกับ Spider ให้ปฏิบัติภารกิจ ทั้งๆที่มีฮีโร่อีกคนอื่นๆที่มีประสบการณ์มากมาย สิ่งเหล่านี้ได้คำตอบแน่นอนในหนังเรื่องนี้ครับ

อีกนิดนึงก็หม่นและ Spider-Man : Far from home...โตเป็นหนุ่มแล้วนะ "ปีเตอร์"

ส่วนดารานักแสดงคนอื่นๆ โดยเฉพาะบรรดาเพื่อนๆของ "ปีเตอร์" ก็ดูมีบทบาทที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ "เอ็มเจ" นางเอกมาดกวนที่รับบทโดย "เซนดายา" ที่ภาคก่อนผมดูตะหงิดๆในบทบาทของเธอพอสมควร แต่มาภาคนี้ โอโห! ทำไมน่ารักจังเลย ทั้งคำพูดคำจา ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่า ทำไมพ่อหนุ่มปีเตอร์ของเรา จะปราบปลื้ม "เอ็มเจ" ได้มากมายถึงขนาดนั้น

อีกนิดนึงก็หม่นและ Spider-Man : Far from home...โตเป็นหนุ่มแล้วนะ "ปีเตอร์"


จะไม่พูดไม่ได้เลยคือตัวละครวัยผู้ใหญ่ 2 คนที่หลักๆ ก็คือ "ป้าเมย์ และ แฮปปี้" คนสนิทของ Spider-Man ที่ออกมาทีไร ก็มีความตลกอมยิ้มได้ตลอด เน้นไปที่ "แฮปปี้" ที่ต้องมาดูแล "ปีเตอร์" เพียงผู้เดียว โดยไร้ "โทนี่" เขาต้องแนะนำหลายๆสิ่งหลายๆอย่างให้กับ "ปีเตอร์" ต้องฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ในครั้งนี้

อีกนิดนึงก็หม่นและ Spider-Man : Far from home...โตเป็นหนุ่มแล้วนะ "ปีเตอร์"


มาถึงจุดที่ผมตะขิดตะขวงใจกับเรื่องนี้ ก็คือ ฉากต่อสู้ครับ บางมุมมองสำหรับคนที่ชอบส่วน มันอาจเป็นฉากต่อสู้ที่ดีครับ แต่ผผมดันเอาไปเปรียบเทียบกับ Spider-Man 2 เวอร์ชั่นแรกที่ โทบี้ แม็คไกวร์ และ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เล่นครับ ในเวอร์ชั่นของ โทบี้ แม็คไกวร์ นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับว่าการที่เขาสู้กับ Dr.Octopus บนรถไฟนั้นมันเป็นฉากต่อสู้ในตำนานอีกหนึ่งฉาก

via Gfycat

และ เวอร์ชั่น แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ ที่ต่อสู้แบบแทบจะเหาะเหินเดินอากาศ ที่ตื่นตาตื่นใจ เมื่อเทียบกับ Far from home ผมว่ายังไม่สนุกเท่าที่ควรครับ (ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ)

via Gfycat


แต่ไม่ว่าจะยังไงครับ รวมๆแล้ว Spider-Man : Far from home เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นหนังบทฉากและสรุปเรื่องของหนังมาร์เวลในเฟสที่ 3 ได้อย่างงดงาม และหนังมาร์เวลแต่ละเรื่องนั้น ได้ทิ้งปมปริศนาอย่างมากมายมหาศาล คงต้องรอชมหนังเฟสที่ 4 และในซีรียส์ที่ทาง Disney ที่กำลังเปิดเว็บไซต์สตรีมมิ่งเป็นของตัวเองแน่นอนว่า ยังมีเรื่องราวของซุปเปอร์ฮีโร่ให้ติดตามไปอีกนาน...

อีกนิดนึงก็หม่นและ Spider-Man : Far from home...โตเป็นหนุ่มแล้วนะ "ปีเตอร์"

logoline