ศาตราจารย์ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บอกว่า ไม่ต้องการให้สังคมมองศิริราชในเชิงลบ เนื่องจากพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ เป็นแหล่งเรียนรู้ จำเป็นต้องมีทั้งข้อมูลที่เป็นตัวอักษรและวัตถุซึ่งเป็นร่างกาย โดยโรงพยาบาลศิริราชจะยังเก็บรักษาร่างของซีอุยต่อไปเหมือนกับร่างอื่นๆ และเตรียมปรับปรุงข้อมูล information board ให้มีคำพิพากษาของศาล และรายละเอียดอื่นๆ ประกอบไว้ด้วยร่างของซีอุยถือเป็นประโยชน์ทั้งต่อวงการแพทย์และสังคมมานานกว่า 60 ปี และทุกวันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี โรงพยาบาลได้จัดทำบุญให้กับทุกร่าง เพราะถือว่าร่างเหล่านี้เป็นครู (ที่เรียกว่าอาจารย์ใหญ่) จึงไม่อยากให้สังคมมองในเชิงลบต่อพิพิธภัณฑ์ฯ โดยโรงพยาบาลศิริราชได้ดำเนินการปลดป้ายชื่อซีอุย และข้อความ "มนุษย์กินคน" ออกไปแล้ว เหลือเพียงแค่ข้อความว่า ผู้ถูกประหารชีวิตคดีฆ่าผู้อื่น
สำหรับเรื่องราวของนายซีอุย ที่กลายเป็นกระแสเมื่อไม่นานมานี้ ถูกดำเนินคดีฆาตกรรมเด็กจำนวน 6 คนในหลายพื้นที่ ทั้งประจวบคีรีขันธ์ นครปฐม ระยอง และกรุงเทพฯ ซึ่งแต่ละศพจะพบร่องรอยการควักอวัยวะของเด็กมากิน เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงแต่จากการตรวจสอบกระบวนการสอบสวนและทำสำนวนของตำรวจ พบหลักฐานหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าซีอุยน่าจะเป็นผู้บริสุทธิ์ และกระบวนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจไม่มีความชัดเจน แถมยังมีการพูดชี้นำของตำรวจ ให้ยอมรับสารภาพ แล้วจะส่งกลับบ้านที่ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเรื่องแบบนี้ในทางกฎหมายแล้ว ถือว่าเป็นการสอบสวนโดยมิชอบ