และตนก็ได้ปรึกษาหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรคไทยศรีวิไลย์ บางส่วนว่าควรจะเลือกใครเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นเกียรติศักดิ์ศรีของประเทศไทย ซึ่งมีความเห็นตรงกันแต่ยังไม่เป็นมติพรรค ว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เป็น อดีต ส.ส. 13 สมัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีประสบการณ์ทำงานในสภาผู้แทนราษฏร และฝ่ายบริหาร มาอย่างยาวนาน ไม่เคยมีประวัติพัวพันการทุจริตประพฤติมิชอบเลย มีความสุจริตในการบริหารราชการแผ่นดินมาโดยตลอด มีความเป็นกลาง มีความอาวุโสทางการเมืองสูง ซึ่งแตกต่างจาก แคตดิเดท ประธานสภาผู้แทนราษฏร จากพรรคการเมืองอื่นบางคนซึ่งจะมีเรื่องพัวพันมัวหมอง หรือยังแก้ข้อครหาไม่ได้
นายมงคลกิตติ์ กล่าวเสริมว่า สถานการณ์ปัจจุบันถ้าพรรคพลังประชารัฐ จัดตั้งรัฐบาลได้ก็จะเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ การทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฏร นั้นมีความสำคัญยิ่งเพราะเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ทำหน้าที่เป็นประธานควบคุมการทำงานในของสภาผู้แทนราษฏร ที่มีทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล จะต้องพบเกมส์การเมืองที่อาจจะมีความไม่เรียบร้อย หรือไม่สงบ ผู้ที่เป็นประธานจะต้องมีความเป็นกลางเป็นที่ยอมรับของทั้ง 2 ฝ่าย มีความอดทนสูง ซึ่งส่วนตัวก็ได้เห็นการทำงานของ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน มาตั้งแต่ตนยังเด็กจนถึงปัจจุบันร่วม 20 ปี ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นนักการเมืองน้ำดีที่น่าเป็นแบบอย่างคนหนึ่ง.