svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดคำพิพากษาลงโทษ "พระพรหมกวี" สั่งบูรณะโบราณสถานไม่ชอบ

รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าที่ยื่นฟ้อง พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ย่านธนบุรี และเจ้าคณะภาค 13 ในความผิด พ.ร.บ.วัตถุโบราณสถาน โดยศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งคุก 3 ปี ปรับ 6 หมื่น รับสารภาพเหลือคุก 1 ปี 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี ชี้ไม่มีเรื่องทุจริต การบูรณสังขรณ์ เพื่อทัศนียภาพสวยงาม มีความปลอดภัยสมกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำชาติไทย

ผู้สื่อรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ฟ้องของอัยการโจทก์ บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 17 ก.พ.-13 มี.ค.58 ขณะที่จำเลย เป็นเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งในการปกครองคณะสงฆ์ เป็นเจ้าพนักงานตามความในประมวลกฎหมายอาญา ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ มาตรา 45 โดยจำเลย มีหน้าที่บำรุงรักษาวัด จัดกิจการและสาธารณะสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดีถูกต้องตามกฎหมาย ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยร่วมกับพวกซึ่งแยกไปดำเนินคดี และก่อให้ด้วยการใช้จ้างวานยุยง ส่งเสริมให้ นายฉลอง ไทยขำ จำเลยในศาลอาญาธนบุรี คดีอาญา หมายเลขแดง 2364/2559 (ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษไปแล้ว) กับพวกอีกหลายคนซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ทำลาย ทำให้เสียหาย ทำให้เสื่อมค่า และทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งกุฏิคณะ1จำนวน 1 หลัง และศาลาราย 1 หลังอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งอยู่ภายในวัดกัลยาณมิตรฯ เป็นโบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว

ซึ่งการที่จำเลยกับพวก ร่วมกันก่อให้นายฉลองกับพวกร่วมกันทุบทำลายให้เสื่อมค่ากุฏิสงฆ์คณะ 1 และศาลารายดังกล่าวที่เป็นโบราณสถานซึ่งขึ้นทะเบียนแล้วให้เสียหาย โดยไม่รับอนุญาตเป็นหนังสือ และไม่ใช่การทำตามคำสั่งจากอธิบดีกรมศิลปากร ทำให้เกิดความเสียหายแก่กรมศิลปากร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ด้านการคุ้มครองดูแลรักษา ซ่อมแซมหรือกระทำการใดอันเป็นการบูรณะ หรือรักษาไว้ให้คงสภาพเดิมซึ่งโบราณสถาน เพื่อเป็นประโยชน์คุณค่าในทางศิลปะประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดีอันเป็นทรัพย์มรดกที่มีค่ายิ่งของชาติ ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.โบราณสถานฯ การกระทำของจำเลย จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต