
ก้อนหินดังกล่าว มีลักษณะกลมเป็นวงรีเหมือนไข่ไก่แจ้ มีสีดำสนิท ผิวเกลี้ยง ความสูงประมาณ 3 ซม.เส้นรอบวงตรงกึ่งกลางวัดได้ 10 ซม.น้ำหนักประมาณ 30 กรัมโดยก่อนนำออกมาให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ นายชา ได้ทำพิธีจุดธูปเทียนและวางก้อนหินไว้ในพาน รองด้วยผ้าขาว เพื่อขอขมาและขออนุญาตให้ถ่ายภาพจากก้อนหินสีดำสนิททุกคนต้องแปลกใจ เมื่อนำหินมาส่องกระทบกับแสงสว่างโดยเฉพาะแสงอาทิตย์ หรือแสงจันทร์ หินจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงครามหรือบางครั้งก็เป็นสีน้ำเงินเข้มสร้างความประหลาดใจให้กับเพื่อนบ้านและผู้สื่อข่าวเป็นอย่างมาก เมื่อนำมาแช่น้ำสีของหินก็จะเปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด บางครั้งนำหินมาแช่น้ำ เพื่อเอาน้ำมาดื่มเชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้
.
.
นายชา บอกว่า เคยฝันว่าหินตกลงไปในน้ำ ตนลองใบ้หวยดู เมื่อหวยออกก็ตรงกับเลขที่ใบ้ไว้ แต่ตนไม่ได้ซื้อ เพราะปกติเป็นคนไม่ชอบเล่นการพนัน แต่หลังจากได้หินมาบูชา อยู่ๆวันนึงทางรัฐบาลแจ้งว่าตนมีรายชื่อที่ได้รับเงินสหายที่กลับตัวผู้ร่วมอุดมการณ์กว่า 1 แสนบาท นอกจากนั้นจากที่มีครอบครัวที่มีความยากลำบาก ในปัจจุบันก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยในการเดินทาง มีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งตนคิดว่าเป็นผลพวงจากการที่ได้ครอบครองหินเปลี่ยนสีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยมีผู้เชี่ยวชาญในการลองของ มาขอทดลอง 2-2 ครั้ง ตามความเชื่อถึงความขลัง แต่ก็ทุกคนไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร จนเกิดเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ เพราะหลังจากมีการทดลองก่อนหน้านี้แล้ว ทางนายชา ไม่อนุญาตให้ใครมาทดลองอีกเลย