svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

"ชมพูภูคา" หนึ่งเดียวในโลก บานสะพรั่งที่ "ดอยภูคา"

ดอกชมพูภูคาแห่งแรกหนึ่งเดียวในโลก ที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน บานรับนักท่องเที่ยวแล้ว นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นไปชมทุกวัน ถือเป็นดอกไม่ที่นับวันใกล้จะสูญพันธุ์

ชมพูภูคา เป็นพืชหายากใกล้จะสูญพันธุ์ จึงควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่ตามแนวพระราชดำริ ประชาชนควรให้ความสนใจเข้าใจและเห็นความสำคัญของพันธุกรรมพืช เนื่องจากพืชพันธุ์ที่มีหนึ่งเดียวในประเทศไทยและหนึ่งเดียวในโลก ณ ขณะนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานให้ ชมพูภูคา เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ จังหวัดน่าน
ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตำบลพูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน นายฉัตรชัย โยธาวุธ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา กล่าวว่า ในช่วงนี้ดอกชมพูภูคาในพื้นที่สำนักงาน บริเวณบ้านพักกำลังบานหลายต้น ช่วงวันหยุดมีนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดน่านและต่างจังหวัด เดินทางมาเที่ยวชมกันมาก ทางอุททยานได้บริการตั้งกล้องส่องทางไกลสำหรับใช้ดูดนกและดูช่องดอกชมพูภูให้ให้ นักท่องเที่ยวในพื้นที่และต่างจังหวัด ได้ชมดอกต้นชมพูภูคาด้วย

"ชมพูภูคา" หนึ่งเดียวในโลก บานสะพรั่งที่ "ดอยภูคา"

.

"ชมพูภูคา" หนึ่งเดียวในโลก บานสะพรั่งที่ "ดอยภูคา"

ต้นชมภูพูคา เป็นพืชหายากชนิดหนึ่งของประเทศไทยและของโลก ที่มีดอกสีชมพู อมขาว พบแห่งเดียวในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน ซึ่งในพื้นที่เขตอุทยานมีสภาพอากาศที่หนาวเย็น โดยเฉพาะที่ยอดดอยภูคา ซึ่งขณะนี้ต้นชมพูภูคา พันธุ์ไม้ที่ได้ชื่อว่าหายากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง เคยมีรายงานการสำรวจพบต้นชมพูภูคาทางตอนใต้ของประเทศจีนและทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม จากนั้นก็ไม่มีรายงานการค้นพบต้นไม้ชนิดนี้อีกเลย ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอาจจะสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ไปแล้ว จนในปี พ.ศ. 2532 ดร.ธวัชชัย สันติสุข นักพฤกษศาสตร์ ได้ค้นพบต้นชมพูภูคาอีกครั้งที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน
พันธุ์ไม้ชนิดนี้ จึงหลงเหลืออยู่ในโลกเพียงแห่งเดียว ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา และที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ซึ่งนำพันธุ์จากที่นี่ไปปลูกเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ต้นชมพูภูคาจะมีช่อดอกสีชมพู ปกติจะผลิตดอกประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงอประมาณกลางเดือนมีนาคม ปัจจุบันสถาพอากาศแปรปรวนปี บานช้า บานช่วงมีนาคม คาดว่าจะโรยช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนเมษายน จะเบ่งบานรอให้นักท่องเที่ยวมาชื่นชม

"ชมพูภูคา" หนึ่งเดียวในโลก บานสะพรั่งที่ "ดอยภูคา"

.

"ชมพูภูคา" หนึ่งเดียวในโลก บานสะพรั่งที่ "ดอยภูคา"

ปีนี้คาดว่า ดอกชมพูภูคาน่าจะออกดอกมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจะยาวนาน และคาดว่านักท่องเที่ยวสามารถชมดอกชมพูภูคาบานไปจนถึงปลายเดือนเมษายน 2562 เนื่องจากบางต้นกำลังแทงช่อออกตามลำกิ่ง
ดอกชมพูภูคานั้นจะออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ตัวดอกมีสีชมพู เมื่อบานดอกจะชิดกันแน่นทำให้ดูเป็นพุ่มสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ในพื้นอุทยานแห่งชาติดอยภูคา อำเภอปัว ซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมต้นชมพูภูคาได้สะดวกที่สุด อยู่บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร และอีกจุดที่ 2 ที่ทำการในพื้นอุทยานแห่งชาติดอยภูคา นอกจากนี้ โดยทางอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวชมดอกชมพูภูคา ในพื้นที่ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ขอความร่วมมือ จากนักท่องเที่ยว กรุณานำขยะกลับคืนถิ่นด้วย
นายฉัตรชัย ยังกล่าวอีกว่า อุทยานแห่งชาติดอยภูคา นอกจากมีดอกชมพูพูคาให้ชมในช่วงนี้ ถ้าหากนักท่องเที่ยวมาช่วงเดือน พฤศจิกายน มกราคม จะได้เห็นต้นก่วมภูคา หรือเมเปิลที่มีลักษณะแตกต่างจากต้นเมเปิ้ลอื่นๆ คือ มีใบห้าแฉก ซึ่งพบที่ดอยภูคาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ทั่วในในพื้นที่อุทยาน ก่วมภูคา (Acer wilsonii Rehder) พบในภาคเหนือบน อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน พื้นที่เป็นป่าดึกดำบรรพ์ตะวันออก อายุหลายร้อยล้านปียังเป็นแหล่งค้นพบปาล์มพันธุ์ใหม่เป็นแห่งแรก เป็นปาล์มที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ชนิดหนึ่งของโลกขึ้นอยู่กระจัดกระจาย บริเวณดอยภูคาจังหวัดน่านเพียงแห่งเดียว และคาดว่าจะยังหลงเหลืออยู่บ้างในป่าดิบเขาที่ยังไม่ถูกรบกวนมากในฝั่งลาวของเทือกเขาหลวงพระบางตามไหล่เขาที่ลาดชันเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีต้นเต่าร้างยักษ์ ให้ดู...

"ชมพูภูคา" หนึ่งเดียวในโลก บานสะพรั่งที่ "ดอยภูคา"

.

"ชมพูภูคา" หนึ่งเดียวในโลก บานสะพรั่งที่ "ดอยภูคา"

.

"ชมพูภูคา" หนึ่งเดียวในโลก บานสะพรั่งที่ "ดอยภูคา"

.