
ประเด็นนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะมีเสียงบ่นจากนักท่องเที่ยวว่าจุกจิก น่ารำคาญ ต้องต่ออายุค่าธรรมเนียมทุกๆ 5 วัน ในราคา 200 บาทสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ไม่ค่อยพอใจ ก็คือกลุ่มที่มาอยู่ยาวเป็นเดือนๆ และออกไปดำน้ำหรือทำกิจกรรมต่างๆ เพราะรู้สึกว่าไม่ได้รับความสะดวก บัตรยืนยันจ่ายค่าธรรมเนียมก็เป็นกระดาษบางๆ เก็บไว้นานถึง 5 วันจะเปื่อยยุ่ย สูญหายได้ ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ทบนเกาะ ก็มองว่ากระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
ประเด็นนี้ "ล่าความจริง" ได้ไปขอสัมภาษณ์หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด คุณประยูร พงศ์พันธ์ คุณประยูร ว่า เป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการบนเกาะเข้าใจผิด คิดว่ามีแต่เกาะเสม็ดเท่านั้นที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม เพราะการเก็บค่าธรรมเนียมเป็นไปตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง "การกำหนดอัตราค่าบริการสำหรับบุคคลที่เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ" ใช้กับทุกอุทยานฯทั่วประเทศ ไม่ใช่มีแต่ที่เกาะเสม็ดเท่านั้น
"ล่าความจริง" ได้ตรวจสอบไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อขอเอกสารตามที่คุณประยูรอ้างกับผู้สื่อข่าว ปรากฏว่ากรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ออกประกาศเรื่องนี้จริง ตั้งแต่ปี 2550 เนื้อหาหลักเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าเข้าไปในเขตอุทยานของคนไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดด้วย โดยอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับคนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
นอกจากนั้นยังมีหมายเหตุท้ายประกาศ ข้อ 4 ระบุว่า อัตราค่าบริการนี้ให้ใช้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปพักแรมในอุทยานแห่งชาติแต่ละแห่งได้ไม่เกินครั้งละ 5 วัน
ประกาศฉบับนี้ตรงกับที่ คุณประยูร เคยให้สัมภาษณ์กับ "ล่าความจริง" ว่า เป็นประกาศที่อุทยานแห่งชาติใช้กันทั่วประเทศ มีการกำหนดราคาและระยะเวลาที่สามารถท่องเที่ยวบนเกาะไว้อย่างชัดเจน แต่ที่ไม่มีการระบุจำนวนวัน หรือวันที่ลงในบัตร ก็เพื่อป้องกันพวกหัวหมอนำบัตรค่าธรรมเนียมมาใช้วนกัน (ซึ่งประเด็นนี้ยังน่าสงสัยว่า การไม่ระบุจำนวนวัน หรือวันที่ลงในบัตร จะช่วยป้องกันการเวียนเทียนใช้ได้อย่างไร)
ส่วนกรณีตัวหนังสือที่ระบุไว้บนบัตร มีทั้งภาษาไทย จีน และอังกฤษ ซึ่งถ้าเป็นคนไทยก็จะได้บัตรที่มีตัวอักษรไทย หากเป็นต่างชาติก็จะมีทั้งภาษาจีนและอังกฤษ
ก็เป็นคำยืนยันจากหัวหน้าอุทยานเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ที่เรานำมาเสนอคุณผู้ชมแบบครบถ้วน รอบด้าน ยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติตามระเบียบ ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการบ่นกันนั้น ก็ต้องรอดูว่าจะมีการแก้ไขหรือไม่ อย่างไร และต้องไปลุ้นกันวันที่ 29 มกราคมนี้ ที่ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินจะลงไปตรวจสอบปัญหาทั้งหมดในพื้นที่ เพื่อหาทางแก้ไข ยุติมหากาพย์ความขัดแย้งบนเกาะเสม็ดให้ได้เสียที