svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"จมูกอิเล็กทรอนิกส์" จากห้องทดลองสู่การใช้จริงในในอุตสาหกรรม

"การดมกลิ่น" นับเป็นหนึ่งในห้าของประสาทสัมผัสสำคัญของมนุษย์ และ "กลิ่น" ในรูปแบบต่างๆ ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญที่มีผลเกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในเชิงอุตสาหกรรม

ในการจำแนกกลิ่นต่างๆเพื่อนำไปใช้ในรูปแบบที่ต้องการ จะมีข้อจำกัดสำคัญคือศักยภาพในการดมกลิ่นของมนุษย์ที่มีปัจจัยทางกายภาพมาเกี่ยวข้อง ทำให้การจำแนกกลิ่นไม่สามารถเป็นมาตรฐานได้ จากแนวคิดนี้เองทำให้เกิดงานวิจัยที่เรียกว่า"E-nose" หรือ "จมูกอีเล็กทรอนิกส์" โดยมีศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ(นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (สวทช.)เป็นหน่วยงานหลักในการศึกษาวิจัย ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา




ดร.รุ่งโรจน์ เมาลานนท์ นักวิจัยจากนาโนเทคเล่าถึงความเป็นมาของการศึกษาวิจัย "E-nose" ว่า "กลิ่น" มีผลต่อการดำเนินกิจกรรมหลายอย่างในชีวิตประจำวันมนุษย์และ"กลิ่น" ยังเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ อีกด้วย ดังนั้นการสร้างจมูกที่มาจากเทคโนโลยี จะช่วยแก้ปัญหาและลดข้อจำกัดเรื่องการดมกลิ่นโดยมนุษย์ได้ที่ผ่านมาศูนย์นาโนเทคได้มีการศึกษาวิจัยเรื่องของระบบการพัฒนาก๊าซเซ็นเซอร์ และกระบวนการวิเคราะห์ที่ใช้สำหรับการตรวจจับกลิ่นที่แตกต่างกันมาอย่างต่อเนื่องผลการวิจัยสามารถนำไปประยุกต์เข้ากับผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย อาทิกลิ่นที่เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่มีโครงสร้างสถานะของแข็ง สถานะของเหลว สถานะก๊าซ การควบคุมคุณภาพของกลิ่นหอม และกลิ่นหืนในผลิตภัณฑ์อาหารการตรวจติดตามสารระเหยที่สร้างผลกระทบด้านกลิ่นในสิ่งแวดล้อมรวมถึงสารระเหยที่ไม่มีกลิ่นแต่สร้างผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์หรือสิ่งแวดล้อม





โดยหลักการของ"E-nose" เป็นการใช้หลักการนำสัญญาณการตอบสนองจากเซ็นเซอร์ในรูปแบบที่แตกต่างกันเช่น เซ็นเซอร์ที่แสดงสัญญาณทางไฟฟ้า เปลี่ยนไปเมื่อดูดซับสารเคมีระเหย และเซ็นเซอร์กลิ่นแต่ละตัว จะมีความไวต่อสารเคมีระเหยแต่ละชนิดไม่เท่ากันโดยสัญญาณของเซ็นเซอร์บางชนิดสามารถตอบสนองต่อกลิ่นสารระเหยที่เป็นพิษและมนุษย์ไม่ได้กลิ่นสัญญาณจากเซ็นเซอร์กลิ่นแต่ละตัว จะถูกประมวลผลด้วยซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นให้เหมาะสมเพื่อการจำแนกกลิ่นออกมา และหาแหล่งที่มาของกลิ่น





"เราได้รับโจทย์คือการขอให้ตรวจสอบหาที่มาของกลิ่นในผลิตภัณฑ์ยางพาราของผู้ประกอบการรายหนึ่ง ซึ่งเราเองก็พร้อมทั้งในเรื่องขององค์ความรู้ของนักวิจัยศูนย์เครือข่ายที่พร้อมจะสนับสนุนข้อมูลต่างๆ โปรแกรมสถิติต่างๆ รวมทั้งเครื่องมือในการศึกษาวิจัย จนในที่สุด ก็ทำให้สามารถวิเคราะห์จนพบว่ากลิ่นดังกล่าว เกิดจากธรรมชาติของวัตถุดิบที่นำมาใช้ โดยมีระดับความแรงของกลิ่นที่แตกต่างกันทำให้ผู้ผลิตทราบปัญหาที่เกิดขึ้นและสามารถกลับไปแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกจุด ลดความสูญเสียของผลิตภัณฑ์ได้"





ดร.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า จากจุดเริ่มของโจทย์ปัญหาในครั้งนั้นจนถึงปัจจุบัน ทำให้มีผู้ประกอบการจำนวนมากที่มีปัญหาเกี่ยวกับกลิ่นเข้ามาปรึกษา เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาด้านกลิ่นที่แตกต่างกันไป ซึ่งทางศูนย์ฯมีเทคโนโลยีที่มีความหลากหลาย พร้อมที่จะให้คำปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาให้ ที่ผ่านมา "จมูกอิเล็กทรอนิกส์" หรือ"E-nose" ทำหน้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับภาคอุตสาหกรรม

สร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจมาแล้วจำนวนมาก





ธารทิพย์เอี่ยมสะอาด CEO บริษัท CIMSHolding Co,Ltd. ผู้นำ"เครื่องจมูก อิเล็กทรอนิกส์" "E-nose"ไปใช้เชิงพาณิชย์ กล่าวว่า เครื่องมือดังกล่าวสามารถที่จะช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเครื่องนี้ไปใช้ทดแทนการดมกลิ่นจากผู้เชี่ยวชาญด้านกลิ่นที่มีราคาแพง เช่น ในอุตสาหกรรมโรลออนแห่งหนึ่ง ในประเทศเยอรมันนีจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์ในการทดสอบกลิ่นทั้งจากการดมกลิ่นจากรักแร้คนจริงๆ เพื่อทดสอบมาตรฐานกลิ่นของสินค้า ในแต่ละวันจะดมได้เพียง4 ครั้ง โดยผู้ประกอบการต้องจ่ายให้ผู้ดมกลิ่นถึงวันละราว 50,000 บาทหรือสูงสุดถึง 100,000 บาทเลยทีเดียวแต่หากนำเครื่องนี้ไปใช้จะสามารถลดต้นทุนลงได้มาก และ กลิ่นยังเป็นมาตรฐานด้วยนอกจากนี้ยังมีการนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การใช้ดมกลิ่นอันตรายในโรงงาน หรือในอุตสาหกรรมอาหาร เช่นการทดสอบกลิ่นของข้าวหอมมะลิ ในการกำหนดราคาสินค้าข้าวหอมมะลิของไทยธารทิพย์ กล่าว




ด้วยเหตุนี้ "เครื่องจมูกอิเล็กทรอนิกส์" น่าจะเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นการนำองค์ความรู้เชิงวิทยาศาสตร์มาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้จริง ควบคู่กับการสร้างมูลค่าในเชิงพาณิชย์

"จมูกอิเล็กทรอนิกส์" จากห้องทดลองสู่การใช้จริงในในอุตสาหกรรม

"จมูกอิเล็กทรอนิกส์" จากห้องทดลองสู่การใช้จริงในในอุตสาหกรรม

"จมูกอิเล็กทรอนิกส์" จากห้องทดลองสู่การใช้จริงในในอุตสาหกรรม