ขณะที่วันนี้ เวลาประมาน 09.20 น. นายพานทอง ได้เดินทางมาถึงสำนักอัยการสูงสุด ถ.รัชดา โดยมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ไร้ความกังวล ท่ามกลางบรรยากาศการให้กำลังใจของเหล่าแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทยพลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ /รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย ชูศักดิ์ ศิรินิล แกนนำกลุ่มนปช. ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตส.ส. อดีตรัฐมนตร รวมถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางส่วน
โดยรองโฆษกสำนักอัยการสูงสุด ประยุทธ เพชรคุณ พร้อมด้วย นาย ธรัมพ์ ชาลีจันทร์ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีว่า ในวันนี้สืบเนื่องมาจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษา ในความผิดมูลฐานของคดีนี้เกี่ยวกับกรณีที่มีการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยโดยมิชอบ ซึ่งได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก นายวิชัยกฤษดาธานนท์ กับพวกพร้อมผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำนวนหลายคนเนื่องจากนายวิชัยได้ทำธุรกรรมกับผู้รับโอนเงินหลายราย ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้แบ่งกลุ่มของผู้ ที่กระทำความผิดเป็น 2 กลุ่ม คือกูโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดและกลุ่มผู้รับโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด
สำหรับคดีที่กล่าวหานายพานทอง แท้ชินวัตรกับพวกดังกล่าวคณะทำงานสำนักงานคดีพิเศษสำนักงานอัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้วมีความเห็น ว่า สั่งไม่ฟ้อง นางเกศินี จิปิภพ ผู้ต้องหาที่ 1 นายพานทองแท้ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงินจำนวน 26 ล้าน บาท ซึ่งสำนักอัยการจะส่งเรื่องกลับไปยังดีเอสไอ อีกครั้งตามกระบวนการกฏหมาย
สั่งฟ้อง นางกาญจนาภา หงส์เหิรผู้ต้องหาที่ 2 นายวันชัย หงส์เหิน ผู้ต้องหาที่ 3 ฐาน สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน จำนวน 26 ล้านบาท
ส่วนกรณีเช็ค 10 ล้านบาท มีคำสั่ง ฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน จำนวน 10 ล้านบาท ตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ. ศ. 2558 มาตรา 10 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญาฉบับที่ 6 พ. ศ. 2526 มาตรา 4