
จากกรณีโลกโซเชียลมีเดียได้โพสคลิปภาพวงจรปิดขณะคนร้าย สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงเอวยางยืดสีฟ้า เข้าไปขโมยเข็มขัดเงินโบราณ จำนวน 2 เส้น ภายในอาคารพระมหาเจดีย์ มหารัชมงคล หรือ หอเจดีย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จ ช่วง เป็นเจ้าอาวาสฯ เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.15 น.วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุมีการแชร์คลิปดังกล่าว ให้พลเมืองดีแจ้งเบาะแสคนร้ายนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2561 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปวัดปากน้ำภาษีเจริญ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม. เพื่อสอบถามกับพระครูปลัดสัมภิพัฒน ปัญญาจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ก่อนพาเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุภายในอาคารพระมหาเจดีย์ มหารัชมงคล ซึ่งเป็นจุดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศเข้าชมวัตถุโบราณต่างๆ พร้อมกล่าวว่า วันเกิดเหตุวันที่20ก.ย.ที่ผ่านมาขณะตนเดินตรวจความเรียบ ก่อนจะปิดอาคารพระมหาเจดีย์ มหารัชมงคล พบว่ามีตู้ที่เก็บของชุดเงินโบราณ ลักษณะตู้กระจกตั้งเรียงกัน มีร่องรอยถูกงัดแงะด้านหลังที่เป็นไม้ เปิดออกมาตนรีบตามลูกศิษย์มาตรวจสอบพบว่า เข็มขัดเงิน จำนวน 2 เส้น ไม่ทราบอายุปี และราคา ที่ญาติโยมได้ถวายให้เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้หายไป
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบกล้วงวงจรปิดเพิ่มเติม ยังพบว่าคนร้ายเดินเข้ามาวนเวียนในอาคารพระมหาเจดีย์ มหารัชมงคล โดยทำทีเป็นนักท่องเที่ยว และยังขโมยเงินเหรียญที่ญาติโยมถวายไว้ในพระประทีปของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งมีประชาชนเก็บได้และนำมาถวายให้วัดปากน้ำภาษีเจริญ นอกจากนี้คนร้ายยังพยายามขโมยเงินเหรียญออกในเรือพายโบราณ 3 ลำ ที่จัดแสดงไว้อีกด้วย โดยคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุเพียง 15 นาที หลังจากเกิดเหตุทางวัดได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความ พร้อมได้กำชับ ให้รปภ.ให้สอดส่องบุคคลต้องสงสัยอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องเหตุขโมยทรัพย์สินมีค่าอีก ทางด้านพ.ต.ท. อุทัย สีคช รอง ผกก.(สอบสวน)สน.ภาษีเจริญ กล่าาว่า หลังทราบเรื่องเมื่อวาน ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บลายนิ้วมือผู้ต้องสงสัยในที่เกิดเหตุทันที พร้อมส่งชุดสายสืบลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและร้านรับซื้อของเก่า พร้อมแจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการหากรับซื้อเข็มขัดโบราณไว้จะมีความผิดฐานรับซื้อของโจร
สำหรับวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จ ช่วง เป็นเจ้าอาวาสฯ และเคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี 2559 เมื่อถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบรถเบนซ์โบราณของสมเด็จช่วง ที่จอดแสดงภายในพระมหาเจดีย์ มหารัชมงคล เช่นกัน กระทั่งดีเอสไอสรุปคดีไม่มีมูล เนื่องจากเห็นว่าสมเด็จช่วง ได้รับถวายรถเบนซ์ จดประกอบมาจากพระเลขาฯ