
ก่อนเข้าสู่เช้าวันสุดท้ายของหลักสูตร นักเรียนถูกปลุกให้ตื่นและปฏิบัติตามคำสั่งของครูฝึกและรุ่นพี่ตลอดทั้งคืน เรียกได้ว่าสภาพร่างกายแต่ละคนแทบหมดแรง เพราะยังต้องฝึกหนัก อดหลับอดนอน ไหนจะต้องแบกขวดอากาศ 2 ใบอยู่ด้านหลัง แล้ววิ่งสลับกับทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดระยะทาง 15 กิโลเมตร กว่าจะกลับถึงที่ตั้งและสุดท้ายก่อนเข้าสู่พิธีประดับเครื่องหมายหมึกยักษ์ สัญลักษณ์ของนักประดาน้ำของนักเรียนทั้ง 16 นาย ก็จะมีการขอขมาครูฝึก สิ่งใดที่เคยล่วงเกินกันไป จะได้ไม่ค้างคาใจกันอีก ขณะที่นักเรียนบางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ จากนั้นรุ่นพี่ก็ต้อนรับรุ่นน้องเข้าสู่ "กองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์" อย่างเป็นทางการปิดท้ายด้วยการประดับเครื่องหมายให้กับนักเรียน ถือเป็นการสิ้นสุดหลักสูตร แล้วก็ต่อด้วยการแสดงความยินดีจากผู้บังคับบัญชา ครูฝึกและรุ่นพี่ ด้วยการทุบ-อก เพื่อสื่อว่า ปีกนี้ได้มาด้วยความยากลำบาก ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้ครอบครองหัวหน้าครูฝึก ย้ำว่า นี่เป็นก้าวแรกของการเป็นนักประดาน้ำกองทัพเรือ และการจะเป็นนักประดาน้ำที่ดีได้ต้องดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง พร้อมปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ ก่อนดำน้ำต้องวางแผนเตรียมการให้รอบคอบเพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามแผนและกฎการดำน้ำอย่างเคร่งครัดภายในงานยังมีญาติพี่น้องของนักเรียนหอบดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีด้วย แต่ละครอบครัวต่างปลื้มใจที่เห็นความสำเร็จของลูกหลาน ขณะที่ตัวนักเรียนเอง บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความตื้นตันไว้ไม่ไหว เพราะใช้เวลาถึง 5 เดือนกว่าที่ฝ่าฟันมา กระทั่งสุดท้ายฝันก็เป็นจริง
แม้นักเรียนที่ผ่านหลักสูตรรุ่นนี้จะมีเพียง 16 นาย แต่ครูฝึกมั่นใจว่าบุคลากรที่ผ่านการฝึกจะสามารถปฏิบัติงานรับใช้กองทัพเรือและประเทศชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ / 16 นายถือเป็นจำนวนมาตรฐาน เพราะที่ผ่านมาบางรุ่นมีผู้ที่ผ่านหลักสูตรน้อยที่สุดอยู่ที่ 7 นาย และสูงสุด 40 นาย / หลังจากนี้นักเรียนจะย้ายเข้ามาบรรจุที่กองประดาน้ำฯ เริ่มทำงานวันที่ 21 กันยายนนี้มนุษย์เราทุกคนล้วนมีความฝัน แต่ฝันของแต่ละคนจะเป็นจริงได้ ต้องอาศัยความอดทนและความมุ่งมั่นเป็นดั่งแสงไฟนำทางสู่ความสำเร็จ วันนี้นักเรียนประดาน้ำรุ่นที่ 30 เข้าฝั่งที่จุดหมายแรกแล้ว แต่จุดหมายต่อไปก็ยังมีความท้าทายรออยู่อีก