svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

Nasdaq พุ่งทะยานขึ้นจาก 8,000 เป็น 8,109 โดยใช้เวลาเพียง 3 วันทำสถิตินิวไฮอย่างต่อเนื่อง

Nasdaq พุ่งทะยานขึ้นจาก 8,000 เป็น 8,109 โดยใช้เวลาเพียง 3 วันทำสถิตินิวไฮอย่างต่อเนื่อง หลังพบว่ามีสาเหตุหลักมาจากการทำ short-covering ของนักลงทุน โดยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 42% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหนุนโดยหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในกลุ่ม FAANG ที่สัดส่วนของตลาดถึง 48% พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา

ด้าน Morgan Stanley เริ่มทำนายว่า หุ้น Amazon จะมีมาร์เก็ตแคปทะลุ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่นักลงทุนมีการทำ short-covering ในหุ้น Amazon สูงสุดมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์
เยอรมนีเตรียมการปรับเปลี่ยนระบบการชำระเงินผ่านระบบที่เรียกว่า SWIFT โดยหันไปใช้ระบบชำระเงินและการโอนเงิน CIPS ซึ่งเป็นของจีนแทน หลังจากที่หลายประเทศในสหภาพยุโรปเริ่มแสดงความไม่พอใจที่การใช้ระบบ SWIFT ไม่เป็นอิสระโดยถูกนำไปผูกกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่อหลายประเทศ
1.   ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,109 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งแรก เพิ่มขึ้น 79.65 จุด หรือ 0.99% เมื่อวันพุธ หลังจากเพิ่งผ่านทะลุระดับ 8,000 เมื่อวันจันทร์ และทะลุผ่านระดับ 7,000 ครั้งแรกในเดือนมกราคมปีนี้
Nasdaq ทำสถิตินิวไฮอย่างต่อเนื่อง หลังพบว่ามีสาเหตุหลักมาจากการทำ short-covering ของนักลงทุน โดยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 42% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหนุนโดยหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในกลุ่ม FAANG ที่สัดส่วนของตลาดถึง 48% พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา

2.   นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันของตลาดหุ้นวอลล๋สตรีท โดยนักลงทุนเมินปัจจัยเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนชั่วคราว แต่หันมาขานรับข่าวเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา เพื่อนำไปสู่การทำข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ หลังจากที่สหรัฐได้บรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับเม็กซิโก
รวมทั้งดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 26,124 เพิ่มขึ้น 60.55 จุด หรือ 0.23% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเหนือ 2,914 เพิ่มขึ้น 16.52 จุด หรือ 0.57% จากแรงหนุนของ GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวที่ 4.2% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ครั้งที่ 1 ที่ 4.1% และสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 4.0% 

3.   หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในกลุ่ม FAANG ซึ่งประกอบด้วย Facebook, Amazon, Apple, Netflix และ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ยังคงได้แรงซื้อเข้ามาสนับสหนุนอย่างร้อนแรง ผลักดันให้ Nasdaq พุ่งขึ้นยืนเหนือระดัย 8,100
โดย Apple พุ่งขึ้น 1.5% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ราคา 222.98 ดอลลาร์ หลังจากที่มีมาร์เก็ตแคปพุ่งแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคมเป็นครั้งแรก ส่วน Alphabet พุ่งขึ้น 1.5% หุ้น Microsoft พุ่งขึ้น 1.6% และหุ้น Intel เพิ่มขึ้น 0.4%
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่ม FAANG ที่พุ่งขึ้นร้อน โดยที่หุ้น Apple พุ่งขึ้น 30% หุ้น Alphabet เพิ่มขึ้น 18% หุ้น Netflix พุ่งขึ้น 92% แต่หุ้น Facebook ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาอยู่ที่ 0% นอกจากนี้ หุ้น Microsoft ยังพุ่งขึ้น 29% 

4.   ส่วนหุ้น Amazon พุ่งขึ้น 3.4% ในวันพุธ จากการที่ Morgan Stanley ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้น Amazon สูงกว่าสำนักวิเคราะห์รายอื่นๆ เนื่องจากความเชื่อมั่นที่มีต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
นอกจากนี้ Morgan Stanley ยังได้ทำนายว่า หุ้น Amazon จะมีมาร์เก็ตแคปทะลุ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่นักลงทุนมีการทำ short-covering ในหุ้น Amazon สูงสุดมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ราคาหุ้น Amazon ได้ทะยานขึ้นถึง 65% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้

5.    เยอรมนีเตรียมการปรับเปลี่ยนระบบการชำระเงินผ่านระบบที่เรียกว่า SWIFT โดยหันไปใช้ระบบชำระเงินและการโอนเงิน CIPS ซึ่งเป็นของจีนแทน เพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของสหรัฐ
หลังจากที่หลายประเทศในสหภาพยุโรปเริ่มแสดงความไม่พอใจที่การใช้ระบบ SWIFT ไม่เป็นอิสระโดยถูกนำไปผูกกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่อหลายประเทศ
โดยเฉพาะกรณีการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินที่มีต่ออิหร่านครั้งล่าสุด ส่งผลให้ธุรกิจขนาดใหญ่ของเยอรมนีและฝรั่งเศส ทั้งกรณีของ Daimler และ Total ต้องสะดุด รวมทั้งต้องทบทวนแผนการลงทุน ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินงานในอนาคต